ศึกฟุตบอล แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ใกล้จะปิดม่ายลงเต็มที หลัง คูชิงที่ 3 อย่าง ตูนีเซีย และ ไนจีเรียจบ ลง ก่อนแข่ง ต้องบอกว่าฟอร์มของทั้งสองทีมสูสีกันมากจริงๆ ต่างก็ต้องวัดใจกันว่าบรรดา เซียนทั้งหลายจะเลือกฝั่งไหน ขอเพียงชนะก็จะกินเต็มกันไปตามระเบียบ ตูนีเซีย สลับนักเตะในบางตำแหน่งสำหรับเกมนี้ แต่ตัวหลักอย่าง คาร์ซรี่ย์ ยังได้เป็นตัวจริง อยู่เช่นเคย ทางฝั่งไนจีเรีย เช่นกัน นอกจากเปลี่ยนผู้รักษาประตูแล้ว ก็มีการส่ง ไอน่า มายืนตัวจริงในตำแหน่งแบ็คซ้าย ส่วนบรรกา ซุปตาร์ของทีมก็อยู่กันครบครับ ทั้ง เอ็นดิดี้,อิโวบี้ ,มูซ่า และ อิกาโล่ เริ่มเกมมาไม่นาน ตูนีเซียก็แจกส้มหล่น จากความผิดพลาดของแนวรับตัวเองสกัดกันไม่ขาด ทำให้ อิกาโล่ รีบปรี่มายิงจ่อๆ เข้าไปเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่สามนาทีแรกของการแข่งขัน หลังจากนั้นตูนีเซียก็พยายามจะทวงประตูคืนให้ได้ แต่ไนจีเรียก็สามารถ รับได้อย่างเหนียวแน่น แถมมีลูกโต้กลับบ้างเป็นระยะ จบ ด้วยผลพวกสกอร์เดียวที่ได้ตั้งแต่ไก่โห่ ส่งผลให้ ไนจีเรีย ชนะไป 1-0 คว้าตำแหน่งที่ 3 ไปครอง สำหรับ ศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2019 ใครอยู่ไนจีเรีย ก็ยิ้มแฉ่งรับทรัพย์กันไปตามระเบียบ

ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2019 รอบสุดท้าย ที่ประเทศอียิปต์ โดยเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รอบรองชนะเลิศ ทีมชาติเซเนกัล หืดขึ้นคอกว่าจะเฉือนเอาชนะ ทีมชาติตูนิเซีย 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังจากเสมอ 0-0 ในเวลา 90 นาที
เริ่มครึ่งแรกรูปเกมส์ค่อนข้างสูสีแต่เป็น เซเนกัล ของเอดูอาร์ ซิสเซ่ ที่ทำได้ดีกว่านิดหน่อยแต่ยังซัดไม่ตรงกรอบด้วยกันทั้งคู่ จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 75 ตูนิเซียได้จุดโทษแต่ เฟอร์จานี ซาสซี ยิงไม่เข้า และอีก 6 นาทีต่อมา เซเนกัลได้จุดโทษคืนบ้าง แต่ เฮนรี ไซเวต ยิงไม่เข้าเหมือนกัน ทำให้จบ 90 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
และในช่วงต่อเวลานาทีที่ 100 จากจังหวะลูกฟรีคิกของ เซเนกัล ที่โยนยาวเข้าเขตโทษก่อน มูเอซ ฮัสเซน นายทวาร ตูนิเซีย พยายามออกมาเล่นแต่โชคร้ายบอลไปโดนตัว ดีล็อง บรงน์ ไหลเข้าประตูตัวเอง ทำให้เซเนกัลขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมส์ เป็น เซเนกัล ที่ดวงเฮงลอยลำเข้าไปชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับ แอลจีเรีย
สำหรับคู่นี้ใครที่เล่นสกอร์ต่ำได้เฮกันถ้วนหน้าเพราะ 90 นาทีไม่มีสกอร์เกิดขึ้นเลย

ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ประเทศอิยิปต์ มาถึงรอบรองชนะเลิศแล้วแอลจีเรีย นำทีมมาโดย ริยาด มาเรซ ปีกตัวเก่ง จากสโมสร แมนฯ ซิตี้ พบกับทีมแกร่งอย่าง ไนจีเรีย ที่มี อเล็กซ์ อิดวบี้ นำทัพ เริ่มต้นครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกกันสนุกโดยแม้ แอลจีเรีย จะครองบอลมากกว่าแต่กลายเป็น ไนจีเรีย ที่พยายามสอดส่องหาช่องซัดประตูได้เสียวหลายครั้งจนล่วงมาถึงนาทีที่ 40 แอลจีเรีย มาได้ประตูออกนำจากจังหวะลุยของ ริยาด มาห์เรซ ก่อนตวัดเข้ากลางบอลไปโดน วิลเลี่ยม ทรูสต์-เอก็อง เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง แอลจีเรีย 1 ไนจีเรีย 0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ครึ่งหลัง “อินทรีมรกต” เกอร์โนต์ โรห์ร เทรนเนอร์ ไนจีเรีย แก้เกมได้อย่างยอดเยี่ยมพับสนามบุกอยู่ข้างเดียวจนมาได้ประตูตีเสมอสำเร็จในนาทีที่ 73 เป็นจังหวะ แฮนด์บอล ของ ไอส์ซ่า ม็องดี้ ในกรอบเขตโทษก่อน โอเดียน อิกาโล่ รับหน้าที่สังหารไม่มีเหลือ แอลจีเรีย 1 ไนจีเรีย 1 ก่อนแข่ง ราคาต่อรอง นั้น เสมอกัน ก่อนไหลมา ที่แอลจีเรีย ต่อ 0-0.5 หรือ ปป. เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ รอเสมอไปว่ากันต่อครึ่งหลัง แต่แล้ว นาทีที่ 90+5 แอลจีเรีย มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายและเป็น ริยาด มาห์เรซ สังหารด้วยซ้ายเสียบตาข่ายงามหยด พาทีมลอยลำเข้าชิงดำในรอบ 29 ปี โดยจะพบกับ เซเนกัล ในวันที่ 19 ก.ค. นี้ ใครวางใจ แอลจีเรีย ก็ยิ้มกว้างกันไปเลยทีเดียว

ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2019 รอบสุดท้าย รอบ 8 ทีมคู่สุดท้าย มาดากัสการ์ ที่ทำผลงานเยี่ยมทุบดีอาร์คองโก เข้ามาสู่รอบนี้หวังเข้าตัดเชือกหนแรกในประวัติศาสตร์ ส่วน ตูนิเซีย อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2004 มีหัวหอกตัวเด่นอย่าง วาห์บี คาซรี่ ดาวยิงจากสโมสรแซงต์เอเตียน เป็นอาวุธแดนหน้า ก่อนเกมเริ่มตุนิเซียค่อนข้างเป็นต่อ โดยราคาต่อรอง อยู่ที่ ตูนิเซีย ต่อ 0.5 หรือครึ่งลูก
เริ่มครึ่งแรกเกมส์ดำเนินถึงนาทีที่ 32 วาห์บี คาซรี่ ได้ลองปั่นฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ บอลลอยข้ามกำแพงผู้เล่นมาดากัสการ์ เกือบเสียบคานแต่ อาเดรียน กระโดดเซฟก่อนบอลไปเช็คคานออกหลังไป
โดยช่วง 45 นาทีแรกเป็น ตูนิเซีย ที่เปิดเกมส์บุกแทบฝั่งเดียวแต่ไม่ดีพอจบสกอร์เสมอกันที่ 0-0
เริ่มครึ่งหลังนาทีที่ 47 ตูนิเซียเฮเก้อ เมื่อ วาห์บี คาซรี่ หนีแผงหลังมาดากัสการ์ เข้าไปกระทุ้งบอลเข้าประตูสำเร็จ แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้า
แต่แล้วในนาทีที่ 52 ยุสเซฟ ซัคนี่ รับบอลจากการโยนยาวของเพื่อนร่วมทีม ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ เฟอร์จานี่ ซาสซี่ จับหนึ่งครั้งก่อนซัดหน้ากรอบเขตโทษ บอลแฉลบบั้นท้าย เฌอโรม มงบรีส์ กองหลังมาดากัสการ์ ไหลเข้าประตูไป
และในนาทีที่ 60 ตูนิเซียก็ได้สกอร์อีกลูกอย่างรวดเร็วจากจังหว่ะ กาซรี้ ได้ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟอาเดรียน แต่บอลกระดอนออกมาเข้าทาง เอ็มซาคนี่ ซัดเข้าไปเต็มๆ
และในช่วงท้ายเกมส์ ตูนิเซีย มาได้ลูกสามตอกตะปูปิดฝาโลงจาก เอลล์เยส สคิรี่ จบเกมชนะ มาดากัสการ์ 3-0 เข้ารอบตัดเชือกพบ เซเนกัล ต่อไป สำหรับใครที่วางใจต่อตูนิเซียก็อิ่มหนำกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว

เกม แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ยังคงโม่แข้งกันอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย วันนี้จะเป็นคิวของ ไอเวอร์รี่โคสต์ พบกับ แอลจีเรีย สถานการณ์ของทั้งสองทีมรวมถึงขุมกำลังนักเตะนั้นค่อนข้างสูสีกันเป็น อย่างมาก ก่อนเกมนั้นอัตราต่อรอง เป็น แอลจีเรียที่มีแต้มต่อ อยู่ที่ 0-0.5 หรือ ปป.เพียงเท่านั้น มาดูที่ความพร้อมของทั้งสองทีม เริ่มที่ ฝั่งไอเวอร์รี่โคสต์ เทรนเนอร์ อิบราฮิม กามาร่า ต้องลุ้นความพร้อมของ แซร์ซ โอริเย่ร์ กองหลังกัปตันทีมจากสเปอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บข้อมือ และข้อเท้ารบกวน นอกนั้น ไม่มีปัญหาอะไร ดาวเด่นประจำทีมอย่างวิลเฟร็ด ซาฮา และนิโคลัส เปเป้ ต่างพร้อมช่วยทีม ด้าน แอลจีเรีย ฌาแมล แบลมาดี้ เทรนเนอร์ แอลจีเรีย พาทีมเข้ารอบมาได้ด้วยการถล่ม กินี มาถึง 3-0 ในรอบที่แล้วเป็นการคว้าชัย 4 นัดติด โดยไม่เสียประตูเลย ตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์ เรียกว่าเกมรับเหนียวแน่นมากๆ แอลจีเรียไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บน่าจะยึดทีมจากนัดที่แล้วเป็นหลักต่อไปเหมือนเดิมนำโดย บรรดาดาวดังประจำทีมอย่าง ยูเซฟ อาตัล, อัดเลเน่ เกดิอูร่า, ริยาร์ด มาเรซ, โฟฟิยาน เฟกุลี่ และ บักห์ดัด บูเนดจาห์ ต่างพร้อมลงในเกมนี้ ฟอร์มโดยรวมถือว่าสูสี กันมากจริงๆ แต่ถ้าดูเรื่องเกมรุกแล้วทางฝั่ง ไอเวอร์รี่โคสต์ถือว่ามีทีเด็ดกว่านิดๆ ด้วยราคาแบบนี้ วางใจท่านรองไว้ก่อนน่าลุ้นกว่าเยอะ

ท่านต่อต้องปวดหัวปวดขมับไปตามๆกัน เมื่อเซเนกัลทำได้แค่เฉือน ทีมรองบ่อน อย่างเบนิน ไปได้เพียง 1-0 เท่านั้น โดยเฉพาะ ซาดิโอ มาเน่ ที่มีโอกาส ยิงเข้าประตูไปถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่โดนปฏิเสธ จาก VAR ทั้งหมด ก่อนเริ่มเกม อัตราต่อรอง อยู่ เซเนกัล ต่อ 1 ลูก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ทีมจอมบุกอย่างเซเนกัล ทำได้ไม่ถึงเป้า ท่านต่อถึงกับเซ็งกันไปเป็นแถบๆ ทั้งๆที่จัดตัวจริงลง ครบครัน นำมาโดย ซาดิโอ มาเน่ ดาวเด่นแชมป์ยุโรป จากค่ายหงส์แดง รวมไปถึง อิดริสซ่า เกย์, เอ็มบาย เนียง ,ชีค คูยาเต้ รวมไปถึง คาลิด คูลิบาลี่ปราการหลังตัวเก่งจากค่าย นาโปลี ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจของ ยักษ์ใหญ่ยุโรป หลายๆทีมอีกด้วย แน่นอน ว่า ทีมชาติเบนิน จัดเกมรับมาเต็มกำลังเช่นกัน แต่ก็ยังมีทีเด็ดในแนวรุก จาก สตีฟ มูนิเย่ ดาวยิงตัวเก่ง จากฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ พอเกมเริ่ม ก็เป็นอย่างที่คาดว่า เซเนกัล บุกพับสนามแทบจะข้างเดียว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดนัก มีโอกาสทำประตูหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็โดนกับดัก ล้ำหน้า ของเบนิน เล่นงานอย่างต่อเนื่อง ต้องรอจนถึงครึ่งหลัง นาทีที่ 70 ถึงจะมาได้ประตูที่ต้องการ เมื่อ เกย์ ตัดเกมกลางสนามได้ก่อนจ่ายไปที่ มาเน่ พยายามแหวกเข้าไปแต่เห็นท่าไม่ดี จ่ายกลับไปให้ เกย์ที่วิ่งตามขึ้นมา ยิงสวนตัวผู้รักษาประตูของ เบนิน เข้าไปเป็นประตู ขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นก็มีโอกาสอีกมากมายแต่ต้องยอมรับว่า กับดักล้ำหน้าของ เบนิน นั้นวางมาได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ และในนาทีที่ 82 เบนินก็สถานการณ์ย่ำแย่เข้าไปอีก เมื่อเวอร์ดอน กองหลัง โดนใบแดงไปในจังหวะตามไปทำฟาวล์ เกย์ ก่อนเข้ากรอบเขตโทษ หลังจากเหลือ 10 คน ทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้เซเนกัล เฉือนชนะ เบนิน 1-0 เข้ารอบรองชนะเลิศ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ไปได้ต่อไป

ถือว่าเจองานเบาและน่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ไม่ยากนักสำหรับเซเนกัล เมื่อโคจรมาพบกับ ทีมชาติ เบนิน ทีมที่ค่อนข้างเป็นรอง แต่ก็ประมาทไม่ได้เมื่อนัดที่แล้ว เบนิน พลิกล็อก สอย โมร็อกโก เข้ารอบมาได้เช่นกัน แถมยังทำสถิติไม่แพ้ใครตลอดทัวร์นาเมนต์ อีกด้วย ด้านเซเนกัล ในรอบที่แล้วเอาชนะ อูกันด้า มาได้แบบ หืดจับ 1-0 โดยมีโอกาสบวกเม็ดสอง แต่ มาเน่ ดาวยิงตัวเก่งก็พลาดจุดโทษแบบ น่าเขกกระโหลก เกมนี้ เซเนกัลจะยังไม่มี ซาลิฟ ซาเน่ เซ็นเตอร์แบ็ค ที่เจ็บข้อเท้า แผงหลังยังใช้ ชีค กูยาเต้ จากคริสตัล พาเลซ จับคู่กับ คาลิดู คูลิบาลี่ ตัวเก่งจากนาโปลี ในเกมรุกมี ซาดิโอ มาเน่ ลงประจำการโดย ตอนนี้ เขานำดาวซัลโวร่วมของรายการนี้อยู่ที่ 3 ประตู ซึ่งจะประสานร่วมกับ เอ็มบาย เนียง มาที่ ทีมชาติเบนิน ไม่มีไรจะต้องกังวล เพราะก่อนออกสตาร์ท ก็ถือว่าเป็นรองอยู่หลายขุมอยู่ แค่เล่นตามเกมของตัวเองเท่านั้น เกมนี้ จะได้ สตีฟ มูนิเย่ กองหน้าตัวเก่งจาก ฮัดเดอร์ฟิลด์ พ้นโทษ แบน กลับมาประจำการอีกครั้ง คาดว่าเกมนี้ เบนินจะใช้รูปแบบ หลัง 5 ตัว เน้นรับให้เหนียวแน่นไว้ก่อน แนวรุกก็ฝากความหวังไว้ที่ สเตฟาน แซสเซอญอง รวมถึง สตีฟ มูนิเย่ ก่อนเกมราคาต่อรอง อยู่ที่ เซเนกัล ต่อ 1 ลูก ซึ่งทัวร์นาเมนต์ นี้ แทบจะไม่ได้กินเลยจริงๆกับเซเนกัล แต่เกมนี้ เชื่อว่าด้วยความที่เหนือกว่าทุกขุมกำลัง เกมรุกที่ทะลุทะลวงจัดจ้าน รวมถึง มาเน่ประกาศเลิกยิงจุดโทษแล้ว นั่นน่าจะทำให้ เชื่อใจเซเนกัลได้มากขึ้น เรียกว่าวันนี้ขอวัดใจ เทใจให้เซเนกัลไปเลย

เกม แอฟริกัน เนชั่นคัพยังคงโม่แข้งกันต่อไป ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย กาน่า พบกับ ตูนีเซีย โดยทางฝั่ง กาน่าจัด ดาวเด่นประจำทีมลงบดตูนีเซีย อยางครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สองพี่น้อง จอร์แดน และ อังเดร อายิว, โธมัส ปาร์เตย์ และบาบ้า รามาน แถมมี ดาวเด่นอีกคนอย่าง อซาโมอาห์ กียาน นั่งอยู่ที่ม้านั่งสำรองอีกด้วย ก่อนแข่ง กาน่า มีแต้มต่อนิดๆอยู่ที่ 0-0.5 หรือ ปป. เพราะตามฟอร์มแล้วถือว่าไม่ได้ห่างชั้นกันมาก ถือว่าสูสีกันมากทีเดียว และเกมก็เป็นไปตามนั้น สูสีกันโอกาสใกลัเคียง รูปเกมค่อนข้างอึดอัด ครึ่งแรกจบไปแบบโน สกอร์ 0-0 ครึ่งหลัง ตูนีเซียซึ่งมีโอกาสไม่มากนัก ก็มาขึ้นนำก่อนจนได้จากจังหวะการยิง เคนิสซี่ ซัดเบียดเสาแรกเข้าไปเป็นประตูขึ้นนำให้ตูนีเซีย นำ 1-0 หลังจากโดนยิงประตูขึ้นนำ กาน่า โหมบุกอย่างหนัก จนเกือบได้ประตูตีเสมอหลายครั้ง แต่ก็พลาดไป เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของตูนีเซีย แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในนาทีที่ 90+2 ตัวสำรองของตูนีเซีย เบโดอุย ที่พึ่งถูกเปลี่ยนลงไปช่วยเกมรับในนาทีที่ 90 ดันพลาดโหม่งบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ กาน่า ไล่ตีเสมอได้อย่างหน้าเฉย ก่อนจบเวลาปกติ ไปด้วยสกอร์ นี้ 1-1 ท่านต่อพังอีกเช่นเคย เกมช่วงต่อเวลา ก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มกันได้ ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ กลายเป็น ตูนีเซียที่ยิงคมกว่า เข้ารอบ ก่อนรองชนะเลิศต่อไปในที่สุดด้วยสกอร์ 6-5 กาน่าก็ต้องผิดหวังร่วงตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวเก่ง หงส์แดง ที่กำลังช่วยทีมชาติอิยิปต์ ลงโม่แข้งในบ้านเกิด ในรายการระดับทวีป อย่างแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ถึงกับหลั่งน้ำตา หลังเจอทีเด็ดของแอฟริกาใต้ ยิงประตูชัย ในนาทีที่ 85 ก่อนหมดเวลาเพียง 5 นาที ทำให้ กองทัฟาโรห์ ของโม ซาลาห์ ต้องร่วงตกรอบ รายการนี้ไปแบบน่าเจ็บใจ โดย เจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตาหลังจบเกม ซึ่งในเกมนี้ ซาลาห์ ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาโชว์ ได้ และต้องถือ แอฟริกาใต้นั้น เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ ก่อนแข่ง อิยิปต์ นั้นเป็นทีมต่อ ราคาอยุ่ที่ 0.5 หรือครึ่งลูก ซึ่งในเกมนี้กลายเป็น ทีมรองอย่างแอฟริกาใต้ที่สามารถ งัดฟอร์มที่ดีกว่าได้ ทำเอาท่านต่อทั้งหลาย ต้องพังกันไปเป็นแถบๆ แต่การตกรอบก่อนเวลาอันควรอาจทำให้แฟนๆ หงส์แดงยิ้มได้เพราะ นั่นหมายความว่า โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จะได้กลับไปเตรียมตัว ฝึกซ้อม และมีสภาพร่างกายที่พร้อมในวันเปิดฤดูกาลแน่นอนนั่นเอง

ท่านต่อทั้งหลาย ต่างเซ็งไปตามๆกัน หลัง เซเนกัล ทำได้แค่เฉือนหวิว อูกานด้า เท่านั้นทั้งที่นำไปก่อนตั้งแต่ไก่โห่ โดยเกมนี้ เป็นเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ของรายการ แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ ทีมเซเนกัล ที่จัดว่าเป็นทีมต่อขนบรรดาแข้ง ซุปเปอร์สตาร์ลงอย่างคับคั่ง ไล่ตั้งแต่ ซาดิโอ มาเน่, คาลิดู คูลิบาลี่, อิดริสซ่า เกย์, อิสไมล่า ซาร์, เอ็มบาย เนียง รวมไปถึง เกอิต้า บัลเด้ ราคาต่อรองก็สมน้ำสมเนื้อ อยู่ที่ 1 ลูก แต่ด้วยความห่างชั้นกันมาก ทำให้บรรดาเซียนทั้งหลาย ต่างเทใจให้ เซเนกัลกันหมดหน้าตัก เริ่มเกมมาไม่นาน ซาดิโอ มาเน่ ก็ยิงประตูขึ้นนำให้ เซเนกัลได้สำเร็จในนาทีที่ 15 แต่หลังจาก เซเนกัลได้ประตูขึ้นนำ ก็กลับโดนกดดันหนัก จาก อูกานด้า ทีมรองบ่อนอย่างเห็นได้จนออกอาการเกือบเสียประตูหลายครั้ง เซเนกัลมีโอกาสได้ประตูอย่างที่สุด เมื่อมาได้จุดโทษในนาทีที่ 61 แต่ซาดิโอ มาเน่ ดาวยิงตัวเอ้ของทีมกลับยิงไปติด เซฟของนายทวาร อูกานด้าชวดได้โอกาสหนีห่างไปอย่างน่าเสียดาย พร้อมความหวังที่พังทลายของบรรดาท่านต่อ จบเกม เซเนกัลยังเอาตัวรอดไปได้ ชนะ 1-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ต่อไปได้สำเร็จ