04/10/2023 23:28 PM
|
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ sbobet-online เรารับพนันกีฬาเอเชี่ยนแฮนดีแคพ และ คาสิโนออนไลน์แบบ ไลฟ์ดีลเลอร์
Highlights

ประกาศประชาสัมพันธ์จากทาง Sbobet-online.co
กรุณาอ่านก่อนโอนเงินทุกครั้ง >> คลิกอ่านที่นี่ <<

ท่านสามารถสมัครสมาชิกผ่านคอลเซ็นเตอร์ได้ที่เบอร์
092-267-0022 , 092-267-0044 , 092-267-0066, 092-267-0088
หรือ
สมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์ที่นี่

หงส์ จัดชุดผสม บุกลอนดอน เอฟเอคัพ รอบ5

———— ศึกฟุตบอล เอฟเอคัพ รอบ5 คู่บิ๊กแมตช์ เป็นเกมระหว่าง เชลซี เจ้าบ้าน เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1 (เวลา : 02.45 น.) ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

————- แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซี พาทีมเข้ารอบนี้ หลังเบียดชนะฮัลล์ ซิตี้ 2-1 ก่อนเสมอบอร์นมัธ 2-2 ทำให้ไม่ชนะมา 2 เกมแล้ว สถานการณ์แย่ลงอีกครั้ง เพราะผลงานในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกก็กำลังจะตกรอบแล้ว ความพร้อมเกมนี้ ”แลมพ์ส” จะไม่มี แทมมี่ อบราฮัม, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ คริสเตียน พูลิซิช ที่บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนการจัดทัพก็อาจมีการปรับเช่นกัน อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ วิลเลี่ยน ที่เป็นสำรอง เมื่อสุดสัปดาห์ ก็น่าจะคัมแบ็กตามปกติ
ในแดนหน้ามีแนวโน้มใช้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงปักเป็นหน้าเป้า โดย แลมพ์ส ยืนยันแล้วว่าจะเน้นถ้วยนี้

—————- ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล พาทีมเข้ารอบนี้ หลังเบียดชนะชรูว์สบิวรี่ 1-0 จากผลงานของ นีล คริทช์ลี่ย์ โค้ชทีมชุดยู-23 ก่อนแพ้วัตฟอร์ด 0-3 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้นัดที่ 2 ในรอบ 5 เกม ความพร้อมเกมนี้ คล็อปป์จะไม่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่บาดเจ็บ ส่วน โจ โกเมซ, เจมส์ มิลเนอร์ และ นาบี เกอิต้า ที่ไม่สมบูรณ์ ต้องรอทดสอบความฟิต แต่คาดว่าไม่น่าจะเสี่ยง ส่วนการจัดทัพก็น่าสนใจ เพราะในรอบก่อนๆ เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวสำรองและดาวรุ่ง แต่การเจอของแข็งอย่างเชลซีในรอบนี้ ก็อาจกลับมาเน้นพอสมควร คาดว่าน่าจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างแข้งสำรองและดาวรุ่งบวกกับแกนหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่อาจได้ออกสตาร์ทตัวจริงร่วมกับ ดิว็อค โอริกี้ และ ทาคูมิ มินามิโนะ

—————– เรตราคา เชลซี ต่อ ปป. เกมนี้ค่อนข้างมั่นใจมากๆว่า ทีมเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล ไม่มีแพ้แน่นอนแม้เกมลีกนัดล่าสุดจะเสียสถิติไร้พ่ายเป็นที่เรียบร้อยแต่เกมดังกล่าวต้องยอมรับว่า “หงส์แดง” เล่นผิดฟอร์มแทบจะยกชุดเลยทำให้เกมนี้กุนซือจอมเฮี้ยบอย่าง คล็อปป์ คงรีบแก้ไขทีมโดยเร็วแม้เกมนี้จะลงสำรองลงบู๊แต่ด้วยศักยภาพรวมไปถึงทีมเวิร์คผมจึงมั่นใจว่าแมตช์ยังคงเอาอยู่ ประกอบกับช่วงหลัง เชลซี ไว้ใจอะไรแทบไม่ได้เลยมักสะดุดให้เห็นอยู่บ่อยครั้งจนตอนนี้แทบจะหวังผลอะไรไม่ได้แล้ว ดังนั้นกับราคาที่เปิดมาให้ เชลซี ต่อ ปป. ไม่ขอเสี่ยงล่ะกันครับแม้จะได้ลงเล่นในบ้านแต่ตัวผู้เล่นต่างโรเตชั่นทั้งคู่แบบนี้คงจะกินกันยากหน่อย ฉะนั้นราคานี้กระโดดเข้าข้างท่านรองไปดีกว่าครับไม่มีแพ้แน่นอน ฟันทิ้ง! รอง ลิเวอร์พูล ลุ้นยาวๆ

————— รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (3-4-2-1) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ – รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ – เมสัน เมาน์ท, วิลเลี่ยน – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, คี-ยาน่า โฮเฟอร์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เคอร์ติส โจนส์, อดัม ลัลลาน่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิว็อค โอริกี้, ทาคูมิ มินามิโนะ
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

หงส์ จัดเต็มบุกรัง ตราหมี ที่ตัวเจ็บอื้อ

————- ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลับมาโม่แข้งกันอีกครั้ง เกมที่น่าสนใจวันนี้ อยู่ สนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ แอตฯ มาดริด เจ้าบ้าน รับการมาเยือนของแชมป์เก่า อย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล แข่งขันกันในเวลา 3.00 น. ถ่ายทอดสดผ่านทาง ยูทูป และ เฟสบุ๊ค ของ DAZN Thailand ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

————– ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์แอตเลติโก มาดริด พาทีมเข้ารอบนี้ในฐานะรองแชมป์กลุ่มดี ก่อนเสมอบาเลนเซีย 0-0 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 2 เกมแล้ว ความพร้อมเกมนี้ ”เอล โชโล่” จะไม่มีทั้ง คีแรน ทริปเปียร์, เอคตอร์ เอร์เรร่า, ดีเอโก้ คอสต้า และ เชา เฟลิกซ์ ที่บาดเจ็บ ส่วน ยานนิค แฟร์เรยร่า การาสโก้ แข้งใหม่ในตลาดหน้าหนาว ก็พร้อมช่วยทีมในรายการนี้ หลังลงทะเบียนแล้วเรียบร้อย นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม บรรดาตัวหลักขาประจำอย่างยาน โอบลัค, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, โธมัส ปาร์เตย์, โกเก้, ซาอูล ญีเกซ และ อังเคล กอร์เรอา ต่างพร้อมช่วยทีมตามปกติ ในขณะที่กองหน้าวาง อัลบาโร่ โมราต้า ปักหลักในแนวรุกแน่นอน

————— ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล พาทีมเข้ารอบนี้ในฐานะแชมป์กลุ่มอี ก่อนชนะนอริช ซิตี้ 1-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 4 นัดติด ความพร้อมเกมนี้ คล็อปป์ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม แต่ก็อาจมีการปรับทัพเล็กน้อย ในรายของ ซาดิโอ มาเน่ แนวรุกเซเนกัลตัวหลักที่ฟิตกลับมาเป็นซูเปอร์ซับ พังประตูชัยให้ทีมในเกมล่าสุด ก็มีลุ้นออกสตาร์ตตามปกติ เช่นเดียวกับฟาบินโญ่ที่หายไปในเกมชนะนกขมิ้น ซึ่งเชื่อว่าเพราะน่าจะได้พัก ส่วนแกนหลักรายอื่นๆ อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโอ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

—————– เรตเปิดมาเป็น แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ต่อ ปป. มองจากสถานการณ์นาทีนี้ลิเวอร์พูล เหนือกว่าอยู่แล้ว แต่แอต.มาดริด ก็ยังเป็นทีมที่ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะในเวทียุโรป ซึ่งมักทำได้ดีในบ้าน และใครก็มาเล่นด้วยยากมากบนสังเวียนแห่งนี้ กับสถิติพ่ายหนเดียวในรอบ 21 นัดที่ผ่านมายืนยันได้ อีกทั้ง “ตราหมี” ลงเล่นแบบเจียมตัว เพราะภาพรวมตกเป็นรองทั้งตัวผู้เล่น และฟอร์มการเล่น จึงงัดแผนถนัดคือรับแน่น แล้วรอจังหวะฉาบฉวย ดังนั้น “หงส์แดง” ต้องไม่ประมาท ส่งผลให้โอกาสชนะง่ายๆเลิกพูดได้เลยสำหรับผู้มาเยือน จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะจบเจ๊ากันไป เนื่องจากเจ้าถิ่นคงพอใจกับผลเสมอในสถานการณแบบนี้ เช่นเดียวกับลิเวอร์พูล ซึ่งมีเกมเลกสองในแอนฟิลด์ ให้แก้ตัว ฟันธง รอง แอตฯ มาดริด ปิดอยู่

—————- รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แอตเลติโก มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค – ซานติอาโก้ อาเรียส, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, เรนาน โลดี้ – มาร์กอส ยอเรนเต้, โธมัส ปาร์เตย์, โกเก้, ซาอูล ญีเกซ – อัลบาโร่ โมราต้า, อังเคล กอร์เรอา
เทรนเนอร์ : ดีเอโก้ ซิเมโอเน่

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโอ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : ซีมอน มาร์ซิเนียค (โปแลนด์)

มาเน่ พร้อมซด หงส์สุดแกร่งบุกรังนกขมิ้น

————– ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 26 เจ้านกขมิ้น นอริช ซิตี้ เปิดรัง แคร์โรว์ โร้ด รับการมาเยือนของจ่าฝูงไร้พ่ายอย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล แข่งขันกันในเวลา 00.30 น. ถ่ายทอดสดช่อง ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD1 ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

————— ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ กุนซือนอริช ซิตี้ พาทีมเสมอนิวคาสเซิ่ล 0-0 ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 2 เกมแล้ว แต่ยังจมปลักอยู่ท้ายตาราง ต้องพยายามดิ้นรนอย่างสุดฤทธิ์ในเกมที่เหลือ ความพร้อมเกมนี้ ฟาร์เค่จะได้เบน ก็อดฟรี่ย์ พ้นโทษแบนกลับมา แต่ในรายของ ทิม โคลเซ่ ที่บาดเจ็บยังชวดเหมือนเดิม นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม บรรดาตัวหลักขาประจำอย่างทิม ครูล, แม็กซ์ อารอนส์, อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์, เคนนี่ แม็คลีน และ ตีมู ปุ๊กกี้ ต่างพร้อมช่วยทีมตามปกติ

—————– ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล พาทีมชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 4-0 ในเกมลีกล่าสุด ส่วนเกมเอฟเอ คัพ รีเพลย์ที่ชนะชรูว์สบิวรี่ 1-0 เป็นหน้าที่ของ นีล คริทช์ลี่ย์ โค้ชทีมชุดยู-23 หงส์แดงยังคงนำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อไป และหากคว้าชัยอีกในเกมนี้จะโกยแต้มหนีห่างเรื่อยๆ เพราะได้พักหนีหนาวมาเกือบ 2 สัปดาห์ อีกต่างหาก เกมนี้คล็อปป์จะกลับมาทำหน้าที่ตามปกติ หลังเบรกหนีหนาวไปกับลูกทีมชุดใหญ่
ความพร้อมเกมนี้ ต้องลุ้นความฟิตของ ซาดิโอ มาเน่ ที่เจ็บกล้ามเนื้อ แต่ในรายของ เจมส์ มิลเนอร์ น่าจะยังชวด แต่แกนหลักรายอื่นๆ อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

—————— เรตราคา ลิเวอร์พูลต่อ 1.5 (ลูกครึ่ง) สำหรับสาวกบอลต่อแล้ว คู่นี้น่าติดตามเป็นอย่างมาก เพราะทีมเยือน ลิเวอร์พูล กำลังฟอร์มดุทะลุจักรวาล ด้วยการคว้าชัยในลีก 16 นัดซ้อนนับตั้งแต่ที่เจ๊า แมนฯยู 1-1 ช่วงปลายเดือนตุลาคมปีก่อน ส่วนเรื่องการผลิตสกอร์หายห่วงแน่นอน ซัดยับทุกทีมที่มีโอกาส เรียกว่าไม่มีเลี้ยงไข้ให้เสียวชัวร์ สอดคล้องกับ นอริช ภายใต้การทำทีมของ ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ เกมรุกดุดันเฉียบคม โดยเฉพาะจังหวะโต้กลับ แต่จุดอ่อนคือการซื้อแนวรับที่มักจะพลาดและมีรูรั่วอยู่เสมอ เห็นได้จากทริปเยือน แอนฟิลด์ ที่โดนทะลวงไปเหนาะๆ 4 เม็ด (1-4) ดูทรงแล้วถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อค คงเสร็จอาคันตุกะบุกเอาชนะตามระเบียบ ฟันธง! จัดหนัก “หงส์แดง” แรงต่อเนื่อง lekarna-slovenija.com…!

—————— รายชื่อผู้เลานที่คาดว่าจะลงสนาม

นอริช ซิตี้ (4-2-3-1) : ทิม ครูล – แม็กซ์ อารอนส์, คริสโตฟ ซิมเมอร์มันน์, เบน ก็อดฟรี่ย์, แซม ไบแรม – อเล็กซานเดอร์ เท็ตเตย์, เคนนี่ แม็คลีน – ลูคัส รุปป์, ออนเดรจ์ ดูด้า, ท็อดด์ แคนท์เวลล์ – ตีมู ปุ๊กกี้
ผู้จัดการทีม : ดาเนี่ยล ฟาร์เค่

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์

หงส์ ปล่อยเด็กวิ่งเล่น เอฟเอคัพนัดรีเพลย์ ชรูว์สบิวรี่ย์

———– ศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ หงส์แดง ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ชรูว์สบิวรี่ย์ ทาวน์ ทีมจาก ลีกวัน แข่งขันกันในเวลา 2.45 น. ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

———— เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูลพาทีมเสมอชรูว์สบิวรี่ 2-2 ทำให้ต้องมารีเพลย์ กันอีกนัด เกมนี้จะเป็นหน้าที่ของ นีล คริทช์ลี่ย์ กุนซือทีมชุดยู-23 เหมือนในเกมลีก คัพ รอบ 8 ทีมกับแอสตัน วิลล่า เช่นเดียวกันขุมกำลังที่จะใช้งานก็จะเป็นบรรดาเด็กดาวรุ่งล้วนๆ เพื่อเปิดโอกาสให้พวกทีมชุดใหญ่ได้พักช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีการวางโปรแกรมกันไว้ก่อนแล้ว แม้การตัดสินใจนี้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งผู้บริหารและแฟนบอลของชรูว์สบิวรี่ว่าไม่ให้เกียรติพวกเขาก็ตาม คาดว่าผู้เล่นเด็กๆ ที่เราคุ้นหน้าอย่าง เปโดร ชิริเบย่า, เคอร์ติส โจนส์, ดัล วาเรซาโนวิช, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, แจ็ค เบิร์น และ หลุยส์ ลองสตาฟฟ์ จะได้ลงทั้งหมด

————- ฟาก แซม ริกเก็ตต์ส กุนซือชรูว์สบิวรี่จากลีก วัน พาทีมเสมอลิเวอร์พูล 2-2 ทำให้ต้องมารีเพลย์ ก่อนแพ้รอชเดล 0-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้ 2 นัดติด ความพร้อมเกมนี้ริกเก็ตต์สจะไม่มี โอลิเวอร์ นอร์เบิร์น ที่บาดเจ็บ ส่วนขุมกำลังอื่นๆ ก็คาดว่าน่าจะยึดทีมจากเกมแรก เพราะทำผลงานกันได้ดีแล้วนั่นเอง นำโดย เจสัน คัมมิ่งส์ กองหน้าตัวเก่งที่เป็นซูเปอร์ซับในเกมแรก ลงมาทำคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ทีมตามตีเสมอได้สำเร็จ เกมนี้ก็คาดว่าน่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง

————– เรตราคาเปิดมา ลิเวอร์พูลเจ้าบ้าน ต่อ ปป. ถึงจะใช้ชุดเด็กลงมาวิ่งเล่นแต่ด้วยคุณภาพก็ยังดูดีกว่า ชรูว์สบิวรี่ย์ อยู่นิดๆ นัดนี้ได้เล่นในบ้าด้วย น่าจะคึกคักเป็นพิเศษ กัดฟันวัดใจ ต่อลิเวอร์พูล น่าเบียดได้ ฟันทิ้ง

————– รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์ – เนโก้ วิลเลี่ยมส์, คี-ยาน่า ฮูเฟอร์, มอร์แกน บอยส์, ยาสเซอร์ ลารูซี่ – เปโดร ชิริเบย่า, เคอร์ติส โจนส์, ดัล วาเรซาโนวิช – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, แจ็ค เบิร์น, หลุยส์ ลองสตาฟฟ์
ผู้จัดการทีม : นีล คริทช์ลี่ย์

ชรูว์สบิวรี่ (3-4-3) : แม็กซ์ โอเลียรี่ – โรฌอน วิลเลี่ยมส์, เอธาน อีแบงค์ส-แลนเดลล์, โอมาร์ เบ็คเคิ่ลส์ – โดนัลด์ เลิฟ, จอช โลเรนท์, เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์, สกอตต์ โกลบอร์น – คัลลัม แลงก์, เจสัน คัมมิงส์, คอเนอร์ แม็คอเลนี่
ผู้จัดการทีม : แซม ริกเก็ตต์ส

หงส์เต็มสูบ จัดชุดใหญ่ลงบู๊ ฟลาเมงโก้ ชิงถ้วยกลับ แอนฟิลด์

——————- ศึกฟุตบอล ชิงแชมป์สโมสรโลก ลิเวอร์พูล จะลงโม่แข้งกับ ฟลาเมงโก้ แข่งขันกันที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, กาตาร์ เวลา 00.30 น. ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

——————- ”หงส์แดง” ผ่านเข้ามาเล่นในรอบนี้หลังจากที่เอาชนะมอนเตอร์เรย์ 2-1 ในรอบตัดเชือก ได้ โรแบร์โต้ เฟอร์มีโน่ สวมบทซูเปอร์ซับยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บพาทีมล่าแชมป์สโมสรโลกสมัยแรก เจอร์เก้น คล็อปป์ มีปัญหา 2 อย่างในเกมนี้ คือต้องเช็กฟิตของ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่งที่ไม่ได้เล่นในเกมที่แล้วกับมอนเตอร์เรย์ เนื่องจากมีอาการป่วย เช่นเดียวกับอาการบาดเจ็บของ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม กองกลางชาวดัตช์ที่เดี้ยงมาจากเกมลีกกับวัตฟอร์ดก่อนมากาตาร์ อาการของ ฟาน ไดค์ ไม่น่าห่วงเท่า ไวนัลดุม เพราะลงซ้อมได้ในวันศุกร์ แต่ไวนัลดุมชวดซ้อม การกลับมาของ ฟาน ไดค์ จะทำให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถูกขยับกลับไปเล่นในแดนกลาง ประสานงานกับ นาบี เกอิต้า ที่กำลังเล่นดี อีกโควตาถ้าไวนัลดุมไม่พร้อมก็จะเป็นแชมเบอร์เลนตามเดิม ส่วนเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ทำแอสซิสต์ที่ 20 ในเกมที่แล้ว จะกลับมาเป็นตัวจริง หลังเป็นสำรองในเกมที่แล้ว เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เจ้าของประตูชัย แทนที่ ดิว็อค โอริกี้

——————- ฟลาเมงโก้ แชมป์จากโซนอเมริกาใต้ ผ่านเข้ามาเล่นในรายการนี้เป็นครั้งแรก โดยเข้าชิงมาได้หลังเอาชนะอัล ฮิลาล 3-1 เทรนเนอร์ จอร์จ เชซุส จอมเก๋า เตรียมส่งทีมลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 แนวรับมี 2 ประสบการณ์ระกับยุโรปอย่าง ราฟินญ่า อดีตแนวรับบาเยิร์น มิวนิค ประจำการคนละฟากกับ ฟิลิเป้ ลุยส์ ที่เคยเล่นกับ แอต.มาดริด กลางสนามเกมนี้เตรียมเรียกให้ ดีเอโก้ รีบาส อดีตมิดฟิลด์แอต.มาดริด, โวล์ฟสบวร์ก, เบรเมน กลับมาเป็นตัวจริ ตำแหน่งหมายเลข 10 เป็นสัมปทานของ จอร์จาน เด อาร์ราสกาเอต้า ดีกรีทีมชาติอุรุกวัย ประสานงานกับ เอแวร์ตอน ริเบยโร่ ทำเกมสนับสนุน กาเบรียล บาร์โบซ่า หัวหอกตัวเก่งของทีม

——————– ราคาเปิดมาที่ ลิเวอร์พูล ต่อ 1 ลูก ถือว่าต่อแพงพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ ต้องแข่งกับสโมสร จาก อเมริกาใต้ ถือเป็นงานยาก มากๆ อีกทั้ง ฟลาเมงโก้ ดูมีความมั่นใจ จากผลงานของพวกเขาด้วยเช่นกัน ดังนั้น ดูแล้วไม่น่าแพ้ขาด มีหวังถึงเสมอหรืออาจจะมีเซอร์ไพรซ์ ชนะได้เลยเช่นกัน ฟันธง รอง ฟลาเมงโก้ โชว์รวย

——————– รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เวอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด-แชมเบอร์เลน (จอร์จินโย่ ไวนัลดุม), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

ฟลาเมงโก (4-2-3-1) : ดีเอโก้ อัลเวส – ราฟินญ่า, ปาโบล มารี, โรดริโก้ ไคโย่, ฟิลิเป้ ลุยส์ – ดีเอโก้ รีบาส, วิลเลี่ยน อาเรา – เอเวอร์ตอน, จอร์จาน เด อาร์ราสกาเอต้า, บรูโน่ เอ็นรีเก้ – กาเบรียล บาร์โบซ่า
เทรนเนอร์ : จอร์จ เชซุส

หงส์ข่มมิด จัดสามประสาน ลงล่าชัยรับวัตฟอร์ต ที่ฟอร์มบู่

————– ศึกพรีเมียร์ลีก นัดที่ 17 ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในขณะนี้ เปิดแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ วัตฟอร์ต ทีม บ๊วยของตาราง แข่งขันกันในเวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสด :True Premier HD 1 ความพร้อมของทั้งสองทีม มีดังนี้

————— เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ”หงส์แดง” พาทีมทำสถิติ ชนะ 15 นัด เสมอเพียง 1 นัดเท่านั้น ยังคงไร้พ่าย นำโด่งเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ โดยสัปดาห์ก่อนบุกชนะบอร์นมัธสบาย 3-0 ตามด้วยการบุกไปเอาชนะซัลซ์บวร์กได้อีก 2-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ ล่าสุดคล็อปป์ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือนพฤศจิกายนด้วย ส่วน ซาดิโอ มาเน่ ผงาดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม เรียกว่าควบสองเลยทีเดียว แถมก่อนแข่ง ยังได้รับข่าวดีสุดๆ เมื่อเจอร์เก้น คล็อปป์ ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมออกไปจนถึงปี 2024 ยิ่งทำให้ ลิเวอร์พูลตอนนี้ คึกคักมากเข้าไปอีก หงส์แดงจะหมดสิทธิใช้งาน เดยัน ลอฟเรน ปราการหลังชาวโครแอตในเกมนี้แน่นอนแล้ว ส่วนฟาบินโญ่ (ข้อเท้า) และ โจแอล มาติป (เข่า) ยังคงบาดเจ็บอยู่ลงเล่นไม่ได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ อาจจะพักนักเตะบางคนเพราะหลังเตะเสร็จต้องเตรียมพร้อมเดินทางไปกาตาร์ เพื่อลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกหรือฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ด้วยในแนวรุก ดิว็อค โอริกี้ อาจได้ลงเล่นแทน โม ซาลาห์ หรือ ซาดิโอ มาเน่ ส่วน โจ โกเมซ ก็จะลงเป็นตัวจริงเช่นเดียวกัน จับคู่กับ ฟาน ไดจ์ค ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

—————- ฟาก ไนเจล เพียร์สัน กุนซือแตนอาละวาด พาทีมออกสตาร์ตเกมแรกไปเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยการเปิดบ้านเสมอกับคริสตัล พาเลซ 0-0 เกมนี้ เพียร์สันจะต้องรอดูความฟิตของ 2 กองหลังอย่าง เคร็ก ดอว์สัน (ศีรษะ) และ ดารีล ยันมาต (ข้อเท้า) ก่อนว่าจะพร้อมหรือไม่ ส่วน โฮเซ่ โฮเลบาส (ข้อเท้า), เซบาสเตียน โพรเดิ้ล (เข่า), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ (ส้นเท้า) และ แดนนี่ เวลเบ็ค (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ทั้งหมด

—————– ราคาเปิดมาลิเวอร์พูล เจ้าบ้าน ต่อ 1.5-2 (ลูกครึ่งควบสอง) ถึงแม้จะเปลี่ยนแปลง ตัวผู้เล่น มากพอสมควรในเกมนี้ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นงานยากนักสำหรับ จ่าฝูง ที่จะไล่ต้อนทีมบ๊วยของตาราง เม็ดนึงมีแน่ ยิ่ง เจอกันตอนที่บรรดานักเตะลิเวอร์พูลคึกๆ ด้วย ที่รู้ข่าว เจอร์เก้น คล็อปป์ ต่อสัญญาใหม่ ดูแล้ว ไม่น่าจะพลาด สามคะแนนไปได้ ฟันธง ต่อลิเวอร์พูล ดูดีแน่

—————– รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ , เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

วัตฟอร์ด (4-2-3-1) : เบน ฟอสเตอร์ – กีเก้ เฟเมเนีย, คริสติย็อง กาบาเซเล่, เคร็ก แคธคาร์ท, อดัม มาซิน่า – อับดูลาย ดูกูเร่, เอเตียน กาปู – อิสไมล่า ซาร์, โรเบร์โต้ เปเรยร่า, เคราร์ด เดวโลเฟว – ทรอย ดีนี่ย์
ผู้จัดการทีม : ไนเจล เพียร์สัน

พร้อมรบ หงส์จัดกระบวน อาเดรียน เฝ้าเสาร์ หวังเก็บชัย เหนือท็อฟฟี่ ยืดไร้พ่ายต่อ

—————– ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 15 เกมสุดสำคัญของ หงส์แดง ที่มีคิว เปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของเพื่อนร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ครั้งนี้จะแข่งขันกัน เวลา 3.15 น. คืนนี้ True Premier HD 1 ซึ่งความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

—————— เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนเก่งชาวเยอรมันของ ”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พาทีมเดินหน้าเก็บแต้มเป็นกอบเป็นกำด้วยสถิติ ชนะ 13 เสมอ 1 ยังไม่พลาดท่าพ่ายแพ้ทีมใดเลย โดยฟอร์มล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะไบรท์ตันได้ 2-1 อลิสซอน เบ็คเกอร์ โกลมือ 1 จะลงเล่นไม่ได้ เนื่องจากโดนใบแดงในเกม กับ ไบรท์ตัน ติดโทษแบน 1 เกม นัดนี้ จึงเป็นหน้าที่ของ อาเดรียน ที่จะได้ลงเฝ้าเสาแทน ในส่วนของเกมรับ โจแอล มาติป เจ็บเข่ายังไม่พร้อมเช่นเคย ส่วนแดนกลาง ฟาบินโญ่เดี้ยงที่ข้อเท้าคาดว่าจะกลับมาต้นมกราคมเลยทีเดียว โดยเกมนี้คาดว่าแดนกลาง จะใช้บริการของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ส่วนแดนหน้า สามประสานอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ยังคงฟิตพร้อมลงล่าตาข่ายในเกมนี้อย่างแน่อน หรือในแดนกลาง เจมส์ มิลเนอร์ ก็มีโอกาสที่จะสอดแทรกด้วยเช่นเดียวกัน

—————— ฟาก มาร์โก ซิลวา กุนซือทอฟฟี่น้ำเงิน พาทีมแพ้ 2 เกมติดต่อกันให้กับนอริช 0-2 (เหย้า) และ เลสเตอร์ 1-2 (เยือน) จนอันดับหล่นมาติดโซนตกชั้นแล้ว เชมุส โคลแมน กัปตันทีมของเอฟเวอร์ตัน ยังคงไม่พร้อมสำหรับเกมนี้เช่นเคย เช่นเดียวกับ ฟาเบียน เดลฟ์ ซึ่งมีอาการที่เอ็นหลังหัวเข่าก็จะพลาดการลงสนามด้วยเช่นกัน ส่วนในรายอื่นที่ยังคงบาดเจ็บ อังเดร โกเมส (ข้อเท้าหัก) และ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่ยังไม่ฟิต ก็จะเป็นอีก 2 คีน ที่ต้องนั่งดูเพื่อนเล่นต่อไป ส่วน อเล็กซ์ อิโวบี้, ริชาร์ลิซอน และ โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน ยังคงลงประสานงานในแดนหน้าเช่นเคย

—————— เรตราคาเปิดมาเป็น ลิเวอร์พูล ต่อ 1.5 (ลูกครึ่ง) ถึงแม้ฟอร์มการเล่นจะค่อนข้างสวนทางกันโดยสิ้นเชิง แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ แล้ว ไม่มีใครยอกใครง่ายๆแน่นอน ถึงแม้ สถิติจะเป็นรอง แต่ดูแล้ว ทางเอฟเวอร์ตันก็หวังจะใช้เกมนี้ เปลี่ยนโมเม้นตั้ม ในทีมให้ได้เช่นกัน อาจจะแพ้ แต่ไม่น่าจะขาดลอย ดังนั้น ฟันธง รองเอฟเวอร์ตัน ยันสบาย

——————- รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

เอฟเวอร์ตัน (3-4-2-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เมสัน โฮลเกต, เยร์รี่ มิน่า, ไมเคิ่ล คีน – ฌิบริล ซิดิเบ้, ทอม เดวิส, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, ลูก้าส์ ดีญ – อเล็กซ์ อิโวบี้, ริชาร์ลิซอน – โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน
ผู้จัดการทีม : มาร์โก ซิลวา

ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

หงส์รอเฮ ถ้าชนะการันตีแชมป์กลุ่ม ซาลาห์ พร้อมบู๊ ล้างตา นาโปลี

————— ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี คืนนี้ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่ารายการนี้จากฤดูกาลก่อน จะเปิดแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือน ของ นาโปลีแข่งขันกันในเวลา 3.00 น. ถ่ายทอดสด ผ่าน เว็บ DAZN Thailand ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

—————- เจอร์เก้น คล็อปป์กุนซือ ลิเวอร์พูล พาทีมชนะเกงค์ 2-1 ในนัด 4 ก่อนชนะคริสตัล พาเลซด้วยสกอร์เดียวกัน เป็นการคว้าชัย 5 นัดติด สภาพทีมเกมนี้ คล็อปป์จะยังไม่มี โจแอล มาติป และ เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนหมือนเดิม นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ได้พักเมื่อสุดสัปดาห์ เพราะมีอาการบาดเจ็บรบกวนเล็กน้อย ก็น่าจะคัมแบ็กตามปกติ

—————– ด้าน คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือจอมเก๋าของนาโปลีพาทีมเสมอซัลซ์บวร์ก 1-1 ในนัด 4 ก่อนเสมอเอซี มิลาน 1-1 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 5 เกมแล้ว ความพร้อมเกมนี้ ”อันเช่” จะไม่มี ลอเรนโซ่ อินซินเย่, เควิน มัลคุยต์ และ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ที่บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนแกนหลักประจำทีมรายอื่นๆ อย่าง คอสตาส มาโนลาส, คาลิดู คูลิบาลี่, อัลลัน, ฟาเบียน รูอิซ, เออร์วิง โลซาโน่ และ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ สามารถลงประจำการได้ตามปกติ

—————— ราคาเปิดมา ลิเวอร์พูล ต่อ 1-1.5 (ลูกควบลูกครึ่ง) ถือว่าสูงมาก แม้นาโปลีจะขาดตัวหลักก็ตาม เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่ยากอีกเกมของลิเวอร์พูล นาโปลี จะเน้นตั้งรับเหนียวแน่น และรอสวน โดยมีตัวทีเด็ด อย่าง ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ซึ่งน่าจะเล่นงานแนวรับลิเวอร์พูลได้พอสมควร ดูแล้วไม่น่าแพ้ยับแน่นอน ฟันธง รองนาโปลี มีแต่ได้

—————— รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

นาโปลี (4-4-1-1) : อเล็กซ์ เมเร็ต – โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, คอสตาส มาโนลาส, คาลิดู คูลิบาลี่, เอลเซอิด ฮีซาย – โฆเซ่ กาเยฆอน, อัลลัน, เอลิฟ เอลมาส, ฟาเบียน รูอิซ – เออร์วิง โลซาโน่, ดรีส์ เมอร์เท่นส์
เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชลอตติ

ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เดล เซร์โร่ (สเปน)

หงส์จัดเต็ม สามประสาน พร้อมบู๊ แมนฯ ซิตี้ หากชนะโกยหนี 9 แต้ม

————– ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล จ่าฝูง เปิดบ้าน แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือน ของทีมลุ้นแชมป์ อย่าง แมนฯ ซิตี้ แข่งขันเวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

————— เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีม ”หงส์แดง” ออกสตาร์ตด้วยสถิติ สุดยอด ชนะ 10 เสมอ 1 ยังไม่เคยแพ้ใคร สัปดาห์ก่อนบุกไปเอาชนะแอสตัน วิลล่า หวุดหวิด 2-1 และเมื่อกลางสัปดาห์ก็ทุบเกงค์ที่สกอร์ 2-1 เช่นกันในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลิเวอร์พูลมีข่าวดี เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ สองผู้เล่นสำคัญที่พลาดการซ้อมช่วงต้นสัปดาห์ ตอนนี้ฟิตปั๋งและจะพร้อมสำหรับเกมนี้ นั่นเท่ากับว่าเวลานี้ลิเวอร์พูลจะขาดแค่ โจเอล มาติป (เข่า) และ เซอร์ดาน ชากิรี่ (น่อง) เท่านั้น ผู้เล่นหลักๆอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ พร้อมลุย นัดนี้ หากชนะ จะโกยแต้มหนี แมนฯ ซิตี้ ถึง9 คะแนน

—————- ฟาก เป๊ป กวาดิโอล่า พาแชมป์เก่าเรือใบสีฟ้า ชนะ 3 เกมติดต่อกันในลีก สัปดาห์ก่อนไล่แซงเซาธ์แฮมป์ตันหืด 2-1 ก่อนจะไปเสมอกับอตาลันต้า 1-1 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แมนฯ ซิตี้ จะไม่มีเอแดร์ซอนโกลมือ 1 ที่เจ็บในเกมกับอตาลันต้า งานนี้ เคลาดิโอ บราโว่ จะได้เฝ้าเสาแทนนอกจากนี้ ดาบิด ซิลบา มิดฟิลด์จอมเก๋าคนสำคัญก็จะพลาดการลงสนามด้วยเนื่องจากเจ็บกล้ามเนื้อขา ในรายของ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ (เข่า), โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (เข่า) และ โรดรี้ (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังเจ็บอยู่เช่นเดิม จะพลาดลงในเกมนี้ทั้งหมด

—————– เรตราคา เปิดมาอยู่ที่เสมอกัน นัดนี้ แมนฯ ซิตี้จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้น แทบจะหมดสิทธิลุ้นแชมป์ แต่ไม่ใช่งานง่ายแน่ๆ เมื่อต้องมาเล่นที่ แอนฟิลด์ ซึ่งเป็นปราการอันแข็งแกร่ง ของลิเวอร์พูล เรตราคาแบบนี้ อยู่เจ้าบ้าน น่าจะปลอดภัยกว่า ดูแล้วไม่น่าถึงแพ้ ดีไม่ดี อาจเบียดชนะได้อีกด้วย ฟันธง ต่อลิเวอร์พูล บู๊กระจาย

—————– รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เวอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เคลาดิโอ บราโว่ – ไคล์ วอล์คเกอร์, แฟร์นันดินโญ่, จอห์น สโตนส์, เบนฌาแม็ง เมนดี้ – เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

หงส์แดง ลุ้นขึ้นจ่าฝูง รอเปิดบ้านถลุง เกงค์

———– ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี คืนนี้ ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ เกงค์ แข่งขันเวลา 3.00 น https://apoteksv.se/. ความพร้อมของทั้งสองทีมมีดังนี้

———– เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล พาทีมชนะเกงค์ 4-1 ในนัด 3 ก่อนชนะแอสตัน วิลล่า 2-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 4 นัดติด แต่ในรายการนี้จะต้องไม่ประมาทเพราะแพ้นาโปลีมาทำให้รั้งอยู่รองฝูงกลุ่มยังไม่การันตีเข้ารอบต่อไปจึงต้องพยายามคว้าชัยไว้ก่อน สภาพทีมเกมนี้ คล็อปป์ยังไม่มี โจแอล มาติป และ เซอร์ดาน ชากิรี่ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนหมือนเดิม ส่วนฟาบินโญ่ ที่ได้พักเมื่อสุดสัปดาห์ก็อาจได้พักต่อ เพื่อเก็บสดไว้สำหรับเกมลีกนัดสำคัญ กับแมนฯ ซิตี้ เช่นเดียวกับแกนหลักบางราย ทำให้แข้งสำรองอย่างอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อดัม ลัลลาน่า และ นาบี เกอิต้า อาจได้สลับมาออกสตาร์ตบ้าง

———— ด้าน เฟลิเซ่ มาซซู กุนซือเกงค์ พาทีมแพ้ลิเวอร์พูล 1-4 ในนัด 3 ก่อนแพ้ออยเปน 0-2 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 2 เกมแล้ว ผลงานทรุดหนักเลยทีเดียว
ความพร้อมเกมนี้ มาซซูจะไม่มีแดนนี่ วูโควิช และ เนโต้ บอร์เกส ที่บาดเจ็บ นอกจากนั้นไม่มีปัญหา แกนหลักประจำทีมอย่างการ์ลอส กวสต้า, จอห์น ลูกามี่, จุนยะ อิโตะ, เอ็มบวาน่า ซามัตต้า และ พอล โอนัวชู ต่างพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

————- เรตเปิดมา 2.5 (สองลูกครึ่ง) เห็นราคาแล้ว ตกใจอย่างแรง อย่างที่คาดการณ์ว่า ลิเวอร์พูล มีศึกหนักรออยู่ในสุดสัปดาห์นี้ ในเกมบิ๊กแมตช์กับ แมนฯ ซิตี้ นั่นน่าจะทำให้ หงส์แดงต้องพักตัวหลักหลายคนทีเดียว กับราคาที่สูงขนาดนี้ ขอฝากอนาคตไว้กับทีมเยือนดีกว่า คาดว่า ลิเวอร์พูล ชนะ แต่คงไม่ถึงราคาต่อแน่นอน ฟันธง รอง เกงค์

————- รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามตัวจริง
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – โจ โกเมซ, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, เจมส์ มิลเนอร์ – อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อดัม ลัลลาน่า, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

เกงค์ (4-4-1-1) : กาเอต็อง คุกเก้ – โยอาคิม เมห์เล่, การ์ลอส กวสต้า, จอห์น ลูกามี่, เยเร่ ยูโรเน่น – จุนยะ อิโตะ, บริย็อง เอย์แน็ง, ซานเดอร์ เบอร์เก้, เตโอ บงกงด้า – เอ็มบวาน่า ซามัตต้า – พอล โอนัวชู
ผู้จัดการทีม : เฟลิเซ่ มาซซู

ผู้ตัดสิน : อิวาน ครุซเลียค (สโลวาเกีย)