เจ้าภาพ บราซิล คว้าชัยเหนือ เปรู ไปได้อย่างสนุก 3-1 โดยเป็นงานที่เล่นเอาเหนื่อยไม่น้อยหลัง กาเบรียล เชซุส โดนใบแดงไล่ออกจากสนามทำให้เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน โดยก่อนเกม เจ้าภาพบราซิล มีราคาต่อ คู่แข่ง ถึง 1.5 หรือ ลูกครึ่ง ถือว่าต่อเยอะไม่น้อย เกมส์เริ่มต้นได้เพียง 15 นาที ทัพแซมบ้า ก็ทำประตูออกนำไปก่อน 1-0 เมื่อบอลจากกราบขวาของ กาเบรียล เชซุส เปิดโด่งข้ามไปที่เสาสองเข้าทางปืนของ เอเวอร์ตอน วิ่งเข้ามาซัดเหน่งๆ ตุงตาข่าย
เกมส์หลังจากนั้นตกเป็นของเจ้าภาพอย่างชัดเจนและเกมส์ในครึ่งแรกทำท่าจะจบลงด้วยการนำของ บราซิล แต่แล้ว เปรู ก็มาได้จุดโทษในนาทีที่ 44 เมื่อ ติอาโก้ ซิลวา ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษซึ่งเป็น เปาโล เกร์เรโร สังหารไม่พลาด สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 ถือเป็นการเสียประแรก ในทัวร์นาเมนต์นี้ของทีมชาติบราซิล และ อลิสซอน เบ็คเกอร์
ทว่าช่วงทดบาดเจ็บก่อนหมดเวลาครึ่งแรก บราซิลก็ได้ขึ้นนำอีกครั้งจากการโต้กลับเร็วจาก อาร์ตูร์ ที่ดึงผู้เล่นเปรูพาบอลเข้าไปหน้ากรอบก่อนหักเข้ากลางให้ กาเบรียล เชซุส ที่ยืนโล่งๆ ยิงด้วยขวาบอลพุ่งเบียดเสาเข้าไป จบครึ่งแรก บราซิล นำ 2-1 ท่านต่อทั้งหลาย ยังต้องกุมขมับอยู่ หลังจากพักครึ่งกลับมา เกมส์ในครึ่งหลังบราซิล ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ กาเบรียล เชซุส ที่มาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามเมื่อเข้าปะทะหนักกับผู้เล่นของ เปรู ผู้ตัดสินชูใบเหลืองที่สองให้ทันทีในนาทีที่ 70 ของเกมส์ ก่อนที่ เอเวอร์ตอน จะมาเรียกจุดโทษให้กับทีมในนาทีที่ 90 และเป็น ริชาร์ลิซอน ตัวสำรองยิงเสียบมุมเป็นประตู ทไให้บราซิล นำห่าง 3-1 ช่วงเวลาที่เหลือ แม้เปรูจะลุยบุกหนัก แต่ไม่สามารถทวงประตูคืนได้ จบเกม “เจ้าภาพ” บราซิล ที่เหลือ 10 คน บดเอาชนเปรู ไปแบบสนุก 3-1 ผงาดคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา เป็นสมัยที่ 9 หลังรอคอยมา 12 ปี หลังคว้าแชมป์รายการนี้ล่าสุดเมื่อปี 2007 และนับเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์ต่อจากปี 2013 ที่คว้าแชมป์ คอนเฟดเดเรชั่น ด้วยสกอร์ 3-1 ท่านต่อก็กินเต็มกันสมใจไปในที่สุด สกอร์ออกสูด้วยเช่นกัน

สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (ซีบีเอฟ) เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมาว่า วิลเลี่ยน แนวรุกตัวหลักของ บราซิล หมดสิทธิช่วยทีมชาติบราซิลบู๊ในนัดชิงชนะเลิศ โคปา อเมริกา 2019 กับทีมชาติเปรู ในคืนวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคมนี้ หลังมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อเอ็นหลังหัวเข่า

ก่อนหน้านี้วิลเลี่ยนยิงได้ 1 ประตูเป็นลูกปิดท้ายในเกมส์ที่บราซิลไล่ถล่มเปรู 5-0 ในเกมนัดสุดท้ายของกลุ่มเอ นอกจากนี้วิลเลี่ยนยังซัลโวจุดโทษในเกมที่บราซิลชนะการดวลเป้าต่อปารากวัย 4-3 ในการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้าย กระทั่งถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในเกมไปเจออาร์เจนตินา 2-0 ของการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ โดยล่าสุดมีการทดสอบร่างกายและยืนยันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วว่า วิลเลี่ยนมีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อเอ็นหลังหัวเข่า และหายไม่ทันสำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ

สำหรับวิลเลี่ยนเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติบราซิลชุดลุยศึก โคปา อเมริกา 2019 ที่แซมบ้าเป็นเจ้าภาพ โดยเข้ามาแทนที่ของเนย์มาร์ ที่ถอนตัวเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บข้อเท้าในเกมอุ่นเครื่องกับกาตาร์เมื่อเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามรายงานข่าวระบุว่าขุนพลแซมบ้าคนอื่นนั้นมีความฟิตพร้อมล่าแชมป์โคปาครั้งแรกในรอบ 12 ปีแน่นอน และถึงขาด วิลเลี่ยน ไปก็คงไม่ได้ส่งผลกระทบเท่าไหร่ นักเพราะเชื่อว่าบรรดาขุนพลคนอื่นๆยังสามารถทำ หน้าที่ ได้ดีเช่นเคย โดย นัดชิงชนะเลิศ ทีมต่อ และเต็งแชมป์อย่างบราซิลได้เปรียบในทุกกระบวนท่า ทั้งเป็นเจ้าภาพ ได้เล่นในบ้านแฟนบอลมหาศาลที่เข้ามาส่งเสียงเชียร์ ยากนักที่ ทีมชาติเปรูที่ถูกมองเป็นม้ามืดในรายการนี้จะสร้างเซอร์ไพรซ์ใดๆได้ งานนี้ ท่านต่อยิ้นแก้มปริแน่นอน

สตีฟ นิโคล ตำนานแบ็คขวา ของหงส์แดง กล่าวว่า เดอะค็อป ส่วนใหญ่อยากให้ คูตินโญ่ กลับมาสู่แอนฟิลด์อีกครั้ง แต่ติดปัญหาเดียวคือค่าตัวระดับ 100 ล้านปอนด์ของเขา อย่างไรก็ตาม คูตินโญ่ คือนักเตะที่พิสูจน์ตัวเองในเวทีพรีเมียร์ลีกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้าเรื่องการสร้างสรรค์เกมส์รุกแม้จะล้มเหลวกับ บาร์เซโลนา มาหมาด ๆ ก็ตาม
เคียร์ ชูรับเชี่ยน เอเยนต์ของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เผยว่า “ไม่กี่วันก่อนผมได้คุยกับเป๊ป เซกูร่า(ผู้อำนวยการฟุตบอลบาร์ซ่า)ที่บาร์เซโลน่า เขาบอกผมว่าซัมเมอร์นี้สโมสรไม่ต้องการขายคูตินโญ่ ไม่ว่าจะราคาจะเท่าไหร่”
คูตินโญ่มีฤดูกาลที่ไม่น่าประทับใจนักในปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เขากำลังเป็นตัวหลักพาทีมชาติบราซิลเข้าชิงชนะเลิศโคปา อเมริกา 2019 ได้สำเร็จ
ดูจากผลงานล่าสุดของทีมชาติบราซิลที่สามารถเก็บชัยชนะมาได้อย่างต่อเนื่องและนัดน่าสุดสามารถเอาชนะอาเจนติน่า 2-0 ซึ่งในรอบชิงก็ดูเหมือนจะเจองานง่ายเมื่อได้พบกับ ทีมชาติ เปรู ที่แพ้พวกเขามาในรอบแรกถึง 5-0 งานนี้ท่านต่อคงยิ้มมุมปาก กันเลยทีเดียว

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเกม โคปา อเมริกา รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง เจ้าภาพ ทีมชาติบราซิล พบกับ ทีมชาติอาร์เจนตินา เกมนี้เจ้าภาพบราซิล ได้คาเซมิโร่ สตาร์ทเกมด้วยบรรดาตัวรุกเต็มพิกัด เช่นเดียวกับทางอาร์เจนตินา ที่นำทีมโดยซุปตาร์ อันดับ 1 ของโลกอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ หากพูดถึงฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม ณ ตอนนี้ต้องบอกว่า อาร์เจนติน่า ค่อนข้างเป็นรองเจ้าภาพอยู่พอสมควร ทำให้ราคาต่อรองก่อน เริ่มเกม เป็น ทีมชาติบราซิลมีแต้มต่อถึง 0.5 หรือครึ่งลูกเลยทีเดียว แต่ทว่า ช่วงต้นครึ่งแรก กลายเป็น อาร์เจนติน่า ที่บีบพื้นที่ได้ดีกว่าแต่ก็ไม่วาย มาเสียประตู ให้ทีมชาติบราซิลขึ้นไปก่อน 1-0 จากการยิงของ กาเบียล เชซุส ในครึ่ง ยิ่งเล่นยิ่งเป็นรอง และก็โดนลูกที่ สองปิดฝาโลงไปในครึ่งหลังจาก เฟอร์มิโน่ จบเกมส์ ทีมชาติ อาร์เจนติน่าของ เมสซี่ ก็พ่ายแพ้ไป 2-0 หลังเกมส์ ลิโอเนล เมสซี่ ออกปากบ่นว่าผุ้ตัดสิน อย่าง ร็อดดี้ ซัมบราโน่ นั้นตัดสินเข้าข้างเจ้าภาพ โดยเฉพาะในจังหวะก่อนที่ เฟอร์มิโน่ จะยิงประตูย้ำชัย 2-0 นั้น พวกเขามีโอกาสที่จะได้จุดโทษ แต่ผู้ตัดสินก็กลับไม่ดู VAR ในจังหวะนั้นเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังพูดถึงจังหวะทำ ฟาล์ว ต่างๆ ก็กล่าวหาว่าผู้ตัดสินนั้นเข้าข้างทีมชาติบราซิล จนทำให้เพื่อนๆร่วมทีมของเขา เสียสติ จนพ่ายไปในที่สุด

แต่ไม่ว่าจะโวยวายอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ผลการแข่งขันได้แน่นอน อาร์เจติน่าต้องตกรอบรองชนะเลิศ เมสซี่ ต้องอกหักกับการรับใช้ชาติอีกครั้ง ถือเป็นปีที่เลวร้ายของเมสซี่ ไม่น้อย ที่เขาต้องผิดหวังจากการตกรอบ รองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตามด้วยพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ โคปา เดอร์ เรย์ ให้กับทีมรองบ่อนอย่าง บาเลนเซีย ปิดท้ายด้วยการพ่าย ทีมชาติบราซิล ตกรอบ โคปา อเมริกา ไปในที่สุด

ศึกฟุตบอล โคปา อเมริการอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่างเจ้าภาพ บราซิล แชมป์กลุ่ม เอ พบกับ ทีมชาติปารากวัยที่เข้ารอบมาในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด เกมนี้บราซิล ต้องเจอปัญหาหลังขาด คาเซมิโร่ มิดฟิลด์คนสำคัญที่ติดโทษแบน ขณะที่แฟร์นานดินโญ่ ก็ไม่ฟิตพร้อมใช้งาน ทำให้ติเต้ ต้องปรับใช้ อัลลัน จับคู่กับ อาร์ตูร์ ส่วนแนวรุก ใช้กาเบรียล เชซุส ประสานงานกับ คูตินโญ่ และเฟอร์มิโน่

รูปเกมถือว่าบราซิลดีกว่าเล็กน้อย แต่โอกาสได้ประตู แบบจะแจ้งกลับเป็นของปารากวัย ดีที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ยังเซฟไว้ได้หมดจด เรียกได้ว่าตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์ โคปา อเมริกา มา อลิสซอน ยังไม่เสียประในเวลา 90 นาทีเลยแม้แต่ลูกเดียว บราซิลดูเหมือนจะมีโอกาสชนะ ในเกม หลังได้จุดโทษใน นาที ที่ 54 แต่พอดู วีเออาร์ แล้ว กลับให้เป็นฟรีคิกเพียงเท่านั้น จบ 90 นาที เสมอกันไป 0-0 ทำให้อลิสซอน รักษา คลีนชีตได้สำเร็จอีกครั้ง โดยคลีนชีตในเกมนี้ถือเป็นนัดที่ 8 ติดต่อกัน ตั้งแต่ชนะ Newcastle 3-2 ในพรีเมียร์ลีก เป็นต้นมา ที่ อลิสซอน ยังไม่โดนเจาะตาข่ายในเวลา 90 นาที และหลังจากการดวลจุดโทษ ยอดผู้รักษาประตู หน้าเครา ยังเซฟจุดโทษช่วยบราซิลได้สำเร็จ โดยบราซิลชนะการดวลจุดโทษไป 4-3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โคปา อเมริกาต่อไป โดยบรรดาท่านต่อถึงกับต้องเซ็งไปตามๆกัน เพราะก่อนแข่ง บราซิล มีราคาต่อรองอยู่ที่ 1.5/2 เลยทีเดียว

อดีตดาวรุ่งของลิเวอร์พูลย้ายไปค้าแข้งให้บาร์เซโลน่าในเดือนมกราคม ปี 2018 ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมา “คูตี้” ไม่สามารถแสดงผลงานออกมาได้เท่าที่ควรเหมือนสมัยเล่นกับหงส์แดง
“นักเตะบางคน เวลาที่พวกเขาย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลน่า พวกเขาจะรู้สึกกังวลเรื่องความกดดันจนโดนสิ่งนี้เล่นงานพวกเขาไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดเหมือนตอนค้าแข้งให้สโมสรเก่า และนั่นคือกรณีที่เกิดขึ้นกับคูตินโญ่
โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับตอนเล่นให้กับลิเวอร์พูลด้วยแล้วเราอาจจะบอกได้ว่าฟอร์มการเล่นมันห่างไกลกันมากจริงๆ   นอกจากนั้นความสำคัญในทีมก็ดูเหมือนน้อยลงไปอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นลูกฟรีคิกที่ตอนอยู่ลิเวอร์พูล คูตี้คือเบอร์ 1 อย่างไม่มีคู่แข่งแถมยังยิงได้บ่อย แต่พอมาอยู่ที่บาร์ซ่าก็หมดโอกาสไปในทันทีเพราะคงไม่อาจแย่งเมซซี่ได้แน่นอน ปัจจุบันฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กำลังช่วยทีมชาติบราซิล แข่งขันในรายการโคปา อเมริกา โดยในปีนี้บราซิลเป็นชาติเจ้าภาพอีกด้วย ซึ่งถือว่าผลงานในรอบแรกจบไปแล้วนั้นถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม แข่งไป 3 นัดชนะ 2 เสมอ 1 ซึ่งมีแค่นัดที่เสมอเท่านั้นที่ทำให้บรรดาท่านต่อต้องเซ็ง แต่ส่วนผลชนะสองนัดก็ได้กินกันไปตามระเบียบ ซึ่งดูจากฟอร์มแล้ว ตามเจ้าภาพไปยาวๆน่าจะได้ลุ้นไม่น้อยทีเดียว