01/10/2023 01:49 AM
|
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ sbobet-online เรารับพนันกีฬาเอเชี่ยนแฮนดีแคพ และ คาสิโนออนไลน์แบบ ไลฟ์ดีลเลอร์
Highlights

ประกาศประชาสัมพันธ์จากทาง Sbobet-online.co
กรุณาอ่านก่อนโอนเงินทุกครั้ง >> คลิกอ่านที่นี่ <<

ท่านสามารถสมัครสมาชิกผ่านคอลเซ็นเตอร์ได้ที่เบอร์
092-267-0022 , 092-267-0044 , 092-267-0066, 092-267-0088
หรือ
สมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์ที่นี่

หงษ์แดง ทีมดีแล้วคงไม่ต้องการ แวร์เนอร์

จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ กูรูลูกหนังชาวอิตาเลียน คอนเฟิร์ม เวลานี้เอเจนต์ของ ติโม่ แวร์เนอร์ หัวหอกเนื้อหอม แอร์เบ ไลป์ซิก กำลังคุยอยู่กับสองสโมสรยักษ์ใหญ่ในเวที กัลโช่ เซเรีย อา พร้อมฟันธงโอกาสที่ตัวนักเตะจะย้ายไป ลิเวอร์พูล
ช่วงที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ถูกยกเป็นทีมเต็งที่จะได้ตัว แวร์เนอร์ มาตลอด แถมเมื่อสัปดาห์ก่อนมีกระแสข่าวว่า พวกเขาได้ตกลงที่จะทุ่มเงินซื้อตามค่าฉีกสัญญา 52 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,080 ล้านบาท) เรียบร้อย ทว่าล่าสุด ดิ มาร์ซิโอ ชี้ว่า หัวหอกทีมชาติเยอรมนีวัย 24 ปี ย้ายแน่ แต่ไม่น่าจะไป “หงส์แดง”
“ผมรู้ว่า ติโม่ แวร์เนอร์ จะย้ายออกจาก ไลป์ซิก แน่ๆ พวกเอเจนต์กำลังหาทางออกให้กับเขาอยู่ พวกเขากำลังคุยอยู่กับ ยูเวนตุส และ อินเตอร์ มิลาน ดังนั้นมันจึงชัดเจนว่า พวกเขาต้องการให้นักเตะมีการย้ายสโมสร”
“พวกเขาอาจจะคุยกับทาง ลิเวอร์พูล ด้วย เพราะ ลิเวอร์พูล อยากได้เขามานาน แต่ผมไม่รู้ว่า ตอนนี้เขาเป็นนักเตะที่ใช่สำหรับ ลิเวอร์พูล หรือเปล่า เพราะด้วยขุมกำลังกองหน้าที่พวกเขามี มันไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเสริม”
“พวกเขามี (โรแบร์โต้) ฟีร์มีโน่, (โมฮาเหม็ด) ซาลาห์ และ (ซาดิโอ) มาเน่! ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่ยากมาก กับการทุ่มเงินก้อนโตซื้อนักเตะคนหนึ่งเพื่อมานั่งสำรอง แต่เดี๋ยวเราก็จะได้รู้กัน แต่ที่แน่ๆ คือ ตอนนี้ ลิเวอร์พูล และ ไลป์ซิก ยังไม่มีการทำสัญญาใดๆ เกี่ยวกับ แวร์เนอร์” ดิ มาร์ซิโอ กล่าว
สำหรับฤดูกาลนี้ แวร์เนอร์ ทำไปแล้ว 27 ประตู กับ 12 แอสซิสต์ จากการลงเล่นให้ ไลป์ซิก รวมทุกรายการ 36 นัด

สุดท้าย “เสือใต้” คว้าตัวปราการหลังจองแกร่งของ ไลป์ซิก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล กอดคอกันแห้ว เพราะล่าสุดสื่อดังปูด ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ปราการหลังเนื้อหอม แอร์เบ ไลป์ซิก เลือกต้นสังกัดใหม่ได้เรียบร้อย แถมมีการตกลงสัญญากันได้แล้วด้วย
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก สโมสรดังแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้ตอบตกลงที่จะย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่เพื่อนร่วมลีก หลังจบฤดูกาลนี้เรียบร้อย ตามรายงานจาก บิลด์ สื่อกีฬาชั้นนำเมืองเบียร์ เมื่อวันอังคารที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา

อูปาเมกาโน่ ถือเป็นนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งในยุโรปเวลานี้ โดยมีข่าวได้รับความสนใจจากทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ บาร์เซโลน่า
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บิลด์ ระบุว่า “เสือใต้” กลายเป็นทีมที่เข้าวินในการล่าตัว ปราการหลังชาวฝรั่งเศสวัย 21 ปี หลังตกลงเรื่องสัญญาส่วนตัวกับนักเตะได้เรียบร้อย แต่ยังติดอยู่ที่เรื่องค่าตัว ซึ่ง “เสือใต้” ยังไม่พร้อมจ่ายตามค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโร (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ในช่วงที่การเงินของสโมสรกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19”

ทั้งนี้ อูปาเมกาโน่ กำลังจะหมดสัญญากับ ไลป์ซิก ช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ต้นสังกัดจะเลือกทำเงินจากการขายเจ้าตัวหลังจบฤดูกาลนี้ มากกว่ายอมเสี่ยงที่จะเสียไปแบบฟรีๆ หลังจบฤดูกาล 2020/21

ดาวรุ่งพุ่งแรงของ ปีศาจแดง

ทำความรู้จักเจ้าหนู เจมส์ การ์เนอร์ กองกลางดาวโรจน์ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ เฟร็ด ประทับใจมากสุดในบรรดาแข้งยุคใหม่ของทีม
เฟร็ด กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยกย่องให้ เจมส์ การ์เนอร์ เป็นนักเตะดาวรุ่งของ “ปีศาจแดง” ที่ตนชื่นชอบ และประทับใจมากสุดยิ่งกว่า เมสัน กรีนวู้ด กับ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ เสียอีก แม้ 2 รายหลังก้าวขึ้นมาเป็นส่วนสำคัญในทีมชุดใหญ่ฤดูกาลนี้แล้วก็ตาม

วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับเจ้าหนูการ์เนอร์ กองกลางวัย 19 ปีให้มากขึ้น
ชื่อ: เจมส์ การ์เนอร์
วันเดือนปีเกิด: 13 มีนาคม 2001
ตำแหน่ง: กองกลาง
สถานที่เกิด: เบอร์เคนเฮด, อังกฤษ
เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรก: 23 พฤษภาคม 2018
ผลงานกับทีมเยาวชน ยูไนเต็ด เป็นอย่างไรบ้าง

การ์เนอร์ ประเดิมลงเล่นให้ทีม ยู-18 ของ “ปีศาจแดง” ในเกมพบ อาร์เซน่อล ก่อนเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก นอร์ท เมื่อฤดูกาล 2017/18
การ์เนอร์ โชว์ฟอร์มโดดเด่น และได้มีโอกาสเป็นกัปตันทีมยู-18 และ คีแรน แม็คเคนน่า กุนซือของทีมก็เคยเสนอชื่อให้เขาเข้าชิงรางวัล จิมมี่ เมอร์ฟี่ ยัง เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ดส์ มาแล้ว ก่อนเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ทีมยู-23

ประเดิมทีมชุดใหญ่
การ์เนอร์ ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ “ปีศาจแดง” เกมแรก ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองแทน เฟร็ด นาที 89 ในนัดพบ คริสตัล พาเลซ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว

สไตล์การเล่นและจุดเด่น

การ์เนอร์ เป็นกองกลางตัวทำเกม คอยเชื่อมเกมจากแดนหลังไปสู่แดนหน้า รวมทั้งอ่านเกมได้เยี่ยม ผ่านบอลแม่นยำ และเติมขึ้นไปทำประตูได้ด้วย

นอกจากนั้น การ์เนอร์ ยังเป็นนักเตะที่มีความเป็นผู้นำอีกด้วยหลังเคยเป็นกัปตันทีมตั้งแต่ชุดยู-18 จนมาถึงยู-23

ตัวแทนทีมชาติอังกฤษ

การ์เนอร์ เคยเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ “สิงโตจูเนียร์” ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เมื่อปี 2017

ความรู้สึกหลังเซ็นสัญญาอาชีพกับ ยูไนเต็ด

การ์เนอร์ เผยไว้ตอนเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกเมื่อปี 2018 ว่า “ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากที่ได้เซ็นสัญญาที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด การเซ็นสัญญาที่ เอออน เทรนนิ่ง คอมเพล็กซ์ ยังคงเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับผม แต่ในครั้งนี้มันพิเศษกว่ามาก ผมภูมิใจในตัวเอง และครอบครัวของผม แต่ผมคิดว่า มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ทั้งคุณแม่ คุณพ่อ ปูและย่ามีความภาคภูมิใจในช่วงเวลานี้”

ใครคือไอดอล

ไมเคิ่ล คาร์ริค อดีตกองกลาง “ปีศาจแดง” ที่เวลานี้ก้าวขึ้นมาเป็นสตาฟฟ์โค้ชของทีมคือ ขวัญใจของเจ้าหนูการ์เนอร์ โดยเขาเคยพูดว่า “มันเป็นข่าวดีที่เขามาเป็นสตาฟฟ์โค้ช หวังว่าผมจะได้เรียนรู้จากเขาและทำงานกับเขา”

3 ทีมดังพรีเมียร์ลีก รุมแย่งตัวดาวรุ่งเนื้อหอม

ทำความรู้จัก วิคเตอร์ โอซิมเฮน ดาวยิงไนจีเรีย ที่ทำผลงานเยี่ยมกับ ลีลล์ ในซีซั่นนี้ จนมีข่าวทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ให้ความสนใจ
วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้าดาวรุ่ง ลีลล์ ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในนักเตะที่กำลังได้รับการจับตามองในวงการลูกหนัง หลังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ โดยทำไป 18 ประตูจากการลงสนาม 38 นัดในทุกรายการ
หลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป กำลังจับตามองดาวยิงชาวไนจีเรีย วัย 21 ปี รวมทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และ เชลซี 3 ทีมดังใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขณะที่ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ก็เล็งอยู่เช่นกัน

วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ โอซิมเฮน ให้มากขึ้นในแบบสั้นๆ 5 ข้อดังนี้

1. แจ้งเกิดในยู-17ชิงแชมป์โลก
โอซิมเฮน เริ่มต้นเส้นทางอาชีพในบ้านเกิดไนจีเรีย ก่อนที่ โวล์ฟสบวร์ก สโมสรใน บุนเดสลีกา จะดึงมาร่วมทีมเมื่อปี 2017 หลังประทับใจฟอร์มตั้งแต่ไปเล่นให้ทีมชาติไนจีเรีย ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์โลก รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี เมื่อปี 2015
หัวหอกจอมลีลา ซัดไป 10 ประตูคว้าดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ ทำให้ โวล์ฟสบวร์ก จับเซ็นสัญญาเมื่อเดือนมกราคม 2016 แต่ต้องรอการย้ายทีมอย่างเป็นทางการในอีก 1 ปีต่อมาเมื่ออายุถึง 18 เสียก่อน

2. เคยปฎิเสธ อาร์เซน่อล มาแล้ว
ตอนที่ โวล์ฟสบวร์ก เซ็นสัญญากับ โอซิมเฮน เมื่อปี 2016 นั้น “หมาป่าแห่งเมืองเบียร์” ไม่ได้เป็นทีมเดียวที่ให้ความสนใจหัวหอกดาวรุ่งไนจีเรีย
เวลานั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ก็ให้ความสนใจเขาอยู่เช่นกัน และต้องการดึงมาเข้าถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำให้นักเตะรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม โอซิมเฮน เลือก โวล์ฟสบวร์ก เพราะมองว่า น่าจะเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดต่ออาชีพค้าแข้ง แต่สุดท้ายไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดหลังเล่นไป 16 นัดทำประตูไม่ได้เลย ก่อนโดนส่งไปให้ ชาร์เลอรัว ยืมตัวปี 2018 และซื้อขาด จนกระทั่งมาเล่นให้ ลีลล์ เมื่อปีที่แล้ว

3. อิกาโล่ รับประกันฝีเท้า
โอเดียน อิกาโล่ กองหน้าชาวไนจีเรีย ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืมตัวมาจาก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว รับประกันฝีเท้าของดาวรุ่งเพื่อนร่วมชาติ และมั่นใจว่าจะเป็นอนาคตของวงการฟุตบอลไนจีเรีย
อิกาโล่ เผยว่า “ผมได้คุยกับโอซิมเฮน เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งเลยแหละ เรามาจากประเทศเดียวกัน ทุกๆครั้งที่เราคุยกัน ผมจะคอยให้คำแนะนำกับเขา แน่นอนเขาจะเป็นอนาคตของวงการฟุตบอลไนจีเรีย และจะมีเส้นทางที่ดีในวงการลูกหนัง”
“ผมมักจะแนะนำให้เขาตั้งใจทำงานให้หนักซึ่งเป็นหนทางที่จะประสบความสำเร็จ, เขาได้มานั่งดูเกมของเราที่พบกับ คลับ บรูช ในเบลเยียม เพราะมันใกล้กับที่พักของเขา เขาส่งข้อความมาหาผมว่าจะมาดูเกมนี้ และเราทั้งคู่ก็ได้แลกเสื้อกันด้วย ผมชื่นชอบเขา และผมต้องการให้เขาทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะทำลายหลายๆสถิติทั้งในฟุตบอลยุโรปและไนจีเรีย” อิกาโล่ ทิ้งท้าย

4. มีสัญชาตญานดาวยิง
โอซิมเฮน ทำไป 18 ประตูจากการลงสนาม 38 นัดในทุกรายการให้กับ ลีลล์ ฤดูกาลนี้ และหากดูแต่ใน ลีก เอิง เขายิงไป 13 ลูก และทำอีก 4 แอสซิสต์ จาก 27 เกม
โอซิมเฮน แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญานของกองหน้า เหมือนปลาฉลามที่ได้กลิ่นเลือดเวลาที่อยู่ในกรอบเขตโทษ และสามารถลงมาล้วงลูกเองเพื่อหาช่องขึ้นไปทำประตูได้ดีด้วย

5. ลีลล์ กำไรอื้อแน่หากปล่อยตัว
ลีลล์ ซื้อ โอซิมเฮน มาจาก ชาร์เลอรัว เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2019 ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร (ประมาณ 420 ล้านบาท) แต่หลังทำผลงานยอดเยี่ยมและมีหลายสโมสรใหญ่ในยุโรปตามให้ความสนใจ ทำให้ทีมเมืองน้ำหอม น่าจะโก่งราคาไปได้สูงเกินกว่า 80 ล้านยูโร (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) อย่างแน่นอน

ผีแดงตั้งราคาสูงจัด…เปแอสเช คิดหนัก!!

งานนี้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อาจจะต้องคิดหนัก เมื่อแข้งเป้าหมายอย่าง ดีโอโก้ ดาโลต์ ฟูลแบ็กสำรอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกตั้่งค่าหัวไว้สูงถึง 1,400 ล้านบาท
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมพิจารณาขาย ดีโอโก้ ดาโลต์ ฟูลแบ็กดาวรุ่งชาวโปรตุกีส ในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) ถึงแม้ตัวนักเตะยังไม่ได้ลงเล่นอย่างต่อเรื่องก็ตาม ตามรายงานจาก โอ โชโก้ สื่อแดนฝอยทอง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา

ดาโลต์ ย้ายจาก ปอร์โต้ มาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2018 แต่เพิ่งได้ลงเล่นรวมทุกรายการเพียง 33 นัดเท่านั้น เพราะต้องเป็นตัวสำรองให้กับ อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็กขวาจอมแกร่ง ขณะที่ฝั่งแบ็กซ้าย ลุค ชอว์ ก็ยึดตำแหน่งตัวจริงอย่างเหนียวแน่น
ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ “ปีศาจแดง” พร้อมพิจารณาขาย ดาโลต์ หลังจบฤดูกาลนี้ โดยที่เชื่อกันว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอดสโมสรลูกหนังในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส กำลังจับตาดูสถานการณ์ของ ดาวเตะวัย 21 ปี อย่างใกล้ชิด

ล่าสุด โอ โชโก้ ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แจ้งกับทุกสโมสรที่อยากได้ตัว ดาโลต์ เรียบร้อย โดยยืนกรานว่า พร้อมขายในราคาระดับ 35 ล้านปอนด์ เท่านั้น

ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อ ดาโลต์ จาก ปอร์โต้ ที่ราคา 19 ล้านปอนด์ (ประมาณ 760 ล้านบาท)

ไร้ชื่อ โอบาเมยอง ร่วมผังซีซั่นหน้าปืนใหญ่

ทอล์ค สปอร์ต สื่อชื่อดังของ อังกฤษ ได้จัดทำแผนการเล่นของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลหน้า โดยไร้ชื่อของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ดาวยิงตัวเก่งที่ตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง แต่จะได้สองแข้งใหม่เข้ามาเสริมทัพ
อาร์เซน่อล สุ่มเสี่ยงที่จะต้องเสีย ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าทีมชาติกาบอง หลังจากเหลือสัญญากับทีมอีก 12 เดือนเท่านั้น และยังไม่มีท่าทีที่จะขยายสัญญาใหม่ออกไป ซึ่งเจ้าตัวตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับหลายสโมสร โดยเฉพาะ แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า

แน่นอนว่าการขาดหายไปของ โอบาเมยอง จะส่งผลกระทบต่อ “ปืนใหญ่” อย่างแน่นอน หลังจากเจ้าตัวทำผลงานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด 61 ประตู จากการลงเล่น 97 นัดในทุกรายการนับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล เมื่อเดือนมกราคม ปี 2018
สำหรับกองหน้าที่จะถูกดึงตัวมาทดแทนนั้น อาร์เซน่อล เล็งเป้าไปที่ ออดซอนน์ เอดูอาร์ กองหน้าตัวเก่งของกลาสโกว์ เซลติก หลังจากแข้งเลืออดน้ำหอมโชว์ผลงานได้น่าประทับใจกับทีม “ม้าลายเขียวขาว” จากผลงานยิง 27 ประตูในฤดูกาลนี้ และจะเข้ามาเป็นตัวแทนของ โอบาเมยอง ในระยะยาว หลังเจ้าตัวอยู่ในวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น

ขณะที่แข้งใหม่อีกหนึ่งคนที่คาดหมายว่าจะย้ายมาร่วมทัพ “ปืนใหญ่” คือ โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางจอมแกร่งทีมชาติกาน่าของ แอตเลติโก มาดริด โดยมีรายงานว่าพวกเขาได้ยื่นข้อเสนอเงินจำนวน 43.5 ล้านปอนด์ ให้ “ตราหมี” พิจารณาแล้ว โดยเชื่อว่ามิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสแปนิชกำลังมองหามิดฟิลด์ตัวรับชั้นดีมาช่วยเล่นเกมรับ เนื่องจาก ลูคัส ตอร์เรร่า, มัตเตโอ เกนดูซี่ รวมถึง กรานิต ชาคา ยังทำผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ
สำหรับไลน์อัพที่ ทอล์ค สปอร์ต จัดมานั้น อาร์เซน่อล จะมาในระบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ยังคงเป็น แบรนด์ เลโน่ ส่วนแผงแบ็กโฟร์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อพวกเขาจะได้ตัว วิลเลียม ซาลิบา ปราการหลังดาวรุ่งที่ปล่อยให้ แซงต์ เอเตียน ยืมใช้งานต่อในฤดูกาลนี้เข้ามายืนจับคู่กับ ดาวิด ลุยซ์ โดยมี บูกาโย่ ซาก้า จะยึดตำแหน่งแบ็กซ้าย หลังแจ้งเกิดได้ในฤดูกาลนี้

ขยับมาที่แดนกลาง โธมัส ปาร์เตย์ จะมาปักหลักคู่กับ กรานิต ชาก้า ส่วนแนวรุกจะมี กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยืนทางฝั่งซ้าย เมซุส โอซิล ยืนเป็นเพลเมกเกอร์ตามเดิม และริมเส้นฝั่งขวาเป็น นิโกล่าส์ เปเป้ขณะที่กองหน้าตัวเป้ามี ออดซอนน์ เอดูอาร์ ลงล่าตาข่าย

จริงหรือ มาเน่ จะไปซบราชัญชุดขาว ?

สื่อดังปูด “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด พร้อมแล้วที่จะทาบซื้อ ซาดิโอ มาเน่ แข้งดาวดัง ลิเวอร์พูล หลังเห็นตัวนักเตะมีใจที่จะย้ายร่วมทีมด้วย
เรอัล มาดริด ยอดสโมสรลูกหนังแห่งเวที ลา ลีกา สเปน พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอขอซื้อตัว ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าความเร็วสูงของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาร่วมทัพหลังจบฤดูกาลนี้ ตามรายงานจาก ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อลูกหนังของฝรั่งเศส เมื่อวันอังคารที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา
เชื่อกันว่า มาเน่ พร้อมพิจารณาที่จะย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด เพียงทีมเดียวเท่านั้น หากต้องโบกมืออำลาถิ่น แอนฟิลด์ และล่าสุด ฟร้องซ์ ฟุตบอล ระบุว่า “ราชันชุดขาว” พร้อมเช่นกันที่จะออกล่าตัว ดาวเตะทีมชาติเซเนกัลวัย 28 ปี มาวาดลวดลายในสังเวียนแข้ง ซานติอาโก เบร์นาเบว
คาดกันว่า มาเน่ มีค่าตัวอยู่ที่ราว 132 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,412 ล้านบาท) โดยฤดูกาลนี้เจ้าตัวกระทุ้งไปแล้ว 18 ประตู จากการลงเล่นให้ “หงส์แดง” รวมทุกรายการ 38 นัด

คล็อปป์ เล็งเตรียมคว้าตัว เจมส์ วอร์ด-พราวส์

ช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาดูเหมือน ลิเวอร์พูล จะผูกมิตรสัมพันธ์กับ เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นอย่างดี เพราะ “หงส์แดง” มักจะดึงนักเตะฝีเท้าพระกาฬจากทัพ “นักบุญ” มาเสริมแกร่งหลายต่อหลายคน แถมแต่ละคนก็ทำผลงานได้น่าประทับใจมากๆ ซะด้วย
เอาเฉพาะแค่พอจำๆ ได้ก็มี ซาดิโอ มาเน่, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อดัม ลัลลาน่า, นาธาเนียล ไคลน์ และ เดยัน ลอฟเรน เป็นต้น นักเตะเหล่านี้ผ่านการขัดเกลาฝีเกือกจากค่าย “เดอะ เซนต์ส” ก่อนจะมาโด่งดังเป็นทวีคูณเมื่อย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์
อย่างไรก็ตามช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ไม่ได้แวะเข้าไปเคาะประตูถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ เพื่อเสาะหาแข้งชั้นดีของ เซาธ์แฮมป์ตัน นับตั้งแต่ที่พวกเขาพรากยอดกองหลังเลือดดัตช์อย่าง ฟาน ไดค์ มาร่วมทัพเมื่อเดือนมากราคม 2018
แต่ตอนนี้ดูเหมือนเหล่าแฟนคลับ “นักบุญ” ต้องมีอาการขนแขนยังขนทุกส่วนลุกซู่อีกครั้ง เมื่อ คล็อปป์ ชำเลืองเมียงมองพร้อมหมายตานักเตะรายหนึ่งที่ฟอร์มประทับใจกุนซือชาวเยอรมันอย่างมาก และจับตาแข้งรายนี้มานานพอสมควร เพราะฟอร์มการเล่นและสไตล์เข้ากับระบบ “เกเก้นเพรสซิ่ง” อย่างมาก
เจมส์ วอร์ด-พราวส์ กองกลางร่างเล็กใจใหญ่ คือผู้เล่นจากรัง “นักบุญ” รายล่าสุด ที่ คล็อปป์ หมายตาเอาไว้ โดยนักเตะรายนี้เป็นคีย์แมนสำคัญของ เซาธ์แฮมป์ตัน นับตั้งแต่ปี 2012 เมื่อเจ้าตัวแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรก
หลายคนมองว่า มิดฟิลด์เจ้าของส่วนสูง 173 เซนติเมตร ไม่น่าจะเป็นตัวเลือกต้นๆ ของ คล็อปป์ แต่เมื่อดูจากข้อมูลของนักเตะแล้วต้องบอกเลยว่า วอร์ด-พราวส์ อาจจะเป็นตัวเลือกสำคัญที่ นายใหญ่หน้าเปื้อนยิ้ม อยากได้มาเสริมแกร่งในช่วงซัมเมอร์นี้
วอร์ด-พราวส์ มักจะถูกจับเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางซึ่งเป็นตำแหน่งประจำของเขากับ เซาธ์แฮมป์ตัน โดยหากมองจากตำแหน่งนี้ “หงส์แดง” อัดแน่นไปด้วยแข้งคุณภาพอย่าง ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และ นาบี เกอิต้า
กระนั้น ดาวเตะวัย 25 ปีอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ คล็อปป์ อยากดึงมาเล่นในแผงมิดฟิลด์ เพราะ วอร์ด-พราวส์ มีศักยภาพในตำแหน่งอื่นด้วย นั่นก็คือ “ฟูลแบ็ก” ซึ่งเขาลงทำหน้าที่นี้มากว่า 500 นาทีในยุคของ ราล์ฟ ฮาเซนฮัทเทิล กุมบังเหียน “นักบุญ” ในฤดูกาลนี้

อย่าลืมว่า คล็อปป์ เป็นกุนซือที่สายตาเฉียมคมมากๆ ในการดึงศักยภาพของนักเตะออกมาให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ยกตัวอย่าง ไวนัลดุม ตอนที่ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล มาเล่นให้ ลิเวอร์พูล เขามาในฐานะผู้เล่นหมายเลข 10 (เพลย์เมกเกอร์) แต่แล้วไง แข้งเลือดดัตช์ไม่เคยได้เล่นในบทบาทนั้นเลย และกลายเป็นว่าทำหน้าที่อย่างสุดยอดในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ บางครั้งก็ทำหน้าที่เป็นโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ ได้ไม่มีที่ติด้วย
ฉะนั้น วอร์ด-พราวส์ มีโอกาสอย่างมากที่ คล็อปป์ เลือกที่จะดึงมาร่วมทีมเพื่อทำหน้าที่เป็นกำลังเสริมในตำแหน่งแบ็กขวา เพราะด้วยการเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์จึงเป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่เขาจะพัฒนาศักยภาพให้ได้เห็นกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

จริงๆ แล้ว วอร์ด-พราวส์ น่าจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของ เจมส์ มิลเนอร์ ได้อย่างลงตัวเช่นกัน เพราะจากสถิติของ จอมเก๋าเลือดผู้ดี เขาพร้อมที่จะลงทำหน้าที่ในตำแหน่งฟูลแบ็กจำเป็นเวลาที่ คล็อปป์ ต้องการ และผลงานก็ถือว่าสอบผ่านเลยทีเดียว
กรณีนี้ก็คล้ายๆ กับ ดไวท์ แม็คนีล กองกลางดาวรุ่งของเบิร์นลี่ย์ ที่มีคุณสมบัติสามารถลงทำหน้าที่ในตำแหน่งแบ็กซ้ายก็ได้หาก คล็อปป์ ดึงตัวมาร่วมทีม แต่กระนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ค่าตัวของเขาจะแพงกว่า วอร์ด-พราวส์ แถมศักยภาพอาจจะไม่สามารถคุมแดนกลางได้เหมือนกับ มิลเนอร์

จากการพูดคุยกับ จอช วิลเลี่ยมส์ นักวิเคราะห์ประจำถิ่นแอนฟิลด์ ระบุว่าเหตุผลที่ คล็อปป์ ควรจะดึง วอร์ด-พราวส์ มาเสริมทัพ “วอร์ด-พราวส์ เล่นลูกเซตพีซได้ดีเยี่ยมมากๆ คุณไม่มีทางหาใครที่เจ๋งกว่าเขาในลีกแล้ว ผมจินตนาการออกเลยว่าเขาจะไปรับบอลตรงพื้นที่ที่มีที่ว่างไม่มากนักได้ ซึ่ง เทรนต์ ก็ต้องเจอแบบนั้น และสามารถเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ”
“การเปิดบอลแบบนั้นเป็นเหมือนฝันสำหรับแนวรุกในการที่จะจบสกอร์ หากมองในแง่ของสไตล์การเล่นตามธรรมชาติของเขา แม้ว่าเขาจะมีเทคนิคในแบบนักเตะกองกลาง แต่ผมคิดว่าหากจับเขาเล่นเหมือนกับ เทรนต์ ซึ่งมีส่วนสำคัญมากๆ กับเกม และเขาสามารถเปิดบอลได้น่ากลัวพอๆ กัน”
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า วอร์ด-พราวส์ เคยเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็กมาพอสมควร ฉะนั้นนี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขา
ในขณะเดียวกันดาวเตะ “นักบุญ” สร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิงฟรีคิกได้ดีที่สุดในเมืองผู้ดี นับตั้งแต่ที่ก้าวขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2012 เขาซัดฟรีคิกเข้า 5 ประตูตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2015/16 เทียบเท่ากับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ อดีตเพลย์เมกเกอร์ “หงส์แดง” ที่ทำได้ในช่วงเวลาเดียวกัน

ฤดูกาลนี้ วอร์ด-พราวส์ ซัดไปแล้ว 4 ประตู และ 3 แอสซิสต์ แต่สถิติที่ดีที่สุดของเขาอยู่ที่การเข้าสกัดโดนบอลโดยมีค่าเฉลี่ย 2.5 ต่อเกม ที่จริงแล้วซีซั่นก่อนเป็นฤดูกาลที่เขามีค่าเฉลี่ยการเข้าสกัดโดนบอลสูงที่สุดในอาชีพการเล่นที่ 1.4 ครั้งต่อเกม แต่ในฤดูกาลนี้เขาทำได้ดีกว่านั้นถึงขนาดเฉลี่ยแล้วมากกว่า 1 ครั้งต่อเกมด้วยซ้ำ
“เทคนิคของเขาชั้นยอดเลย มันไม่ดีแน่สำหรับผู้รักษาประตูที่ต้องไปยืนอยู่ตรงนั้น ขณะที่ พราวซี่ย์ ก้าวเท้าไปยิงฟรีคิก แต่เขาก็ยังทำเกมได้อย่างวิเศษด้วย และยังต่อสู้แย่งบอลไปทั่วทั้งสนามด้วย พราวซี่ย์ เป็นเครื่องจักร เขาวิ่งไปทั่ว และไม่เคยเหนื่อย” ฮาเซนฮัทเทิล กล่าวชมลูกศิษย์คนเก่ง

หากต้องถูกจับไปเล่นแบ็กขวาแน่นอนว่า วอร์ด-พราวส์ คงต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร แต่จากข้อมูลที่เห็นแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถเล่นในตำแหน่งนี้ได้ โดยเฉพาะเซนต์เกมรุกซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับ “เจ้าหนูเทรนต์” ได้เป็นอย่างดี
จุดด้อยของ วอร์ด-พราวส์ ซึ่งเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน 269 เกม และยิงไปแล้ว 23 ประตูกับ 33 แอสซิสต์ ก็คือเขาเล่นเกมรับไม่ค่อยดีนัก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตเมื่อต้องรับมือกับคู่แข่ง เพราะนักเตะสามารถที่จะปรับตัวได้

ในขณะเดียวกันช่วงซัมเมอร์นี้ อดัม ลัลลาน่า ก็เตรียมที่จะลา “หงส์แดง” ส่วน มิลเนอร์ ก็อยู่ในช่วงบั้นปลายอาชีพพ่อค้าแข้งเนื่องจากอายุ 34 ปีแล้ว และคงเล่นได้อีกหนึ่งหรือสองซีซั่น ดังนั้น สตาร์ “เดอะ เซนต์ส” จึงสามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มในแผงมิดฟิลด์ รวมทั้งการมีโควตานักเตะอังกฤษอยู่ในทีมเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นไปตามกฎพรีเมียร์ลีก ที่ต้องมีผู้เล่นโฮม โกรน (ผู้เล่นท้องถิ่น) อย่างน้อย 8 จาก 25 นักเตะในทีม
หาก วอร์ด-พราวส์ ย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล จริงๆ ถือเป็นการเสริมทัพที่ได้ประโยชน์อย่างมาก เพราะจะได้นักเตะสารพัดประโยชน์ที่เหมาะสไตล์ของ คล็อปป์ จริง

แฟนผีเตรียมเฮ…ปีศาจแดงเตรียมคว้า ซานโช่

สื่อผู้ดีประโคมข่าว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เบียดชนะ เชลซี ในการคว้าตัว เจดอน ซานโช่ ปีกเนื้อหอมของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้แล้ว หลัง “ผีแดง” กับ “เสือเหลือง” เกือบบรรลุรายละเอียดทุกอย่างแล้ว คาดค่าตัวนักเตะคงแพงเป็นสถิติบนเมืองผู้ดี
“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังจะได้ตัว เจดอน ซานโช่ ปีกฟอร์มกระฉูดจาก “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน” สื่อชั้นนำในดินแดนเมืองผู้ดี
ซานโช่ กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการจับตามองจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ที่แสดงความสนใจอยากได้ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ไปเสริมแกร่งในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรก
จากรายงานว่าล่าสุดดูเหมือนทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะเอาชนะ เชลซี ได้แล้ว เมื่อมีการระบุว่า “ผีแดง” กับ ดอร์ทมุนด์ ได้ตกลงรายละเอียดเกือบครบทุกอย่างในเรื่องการย้ายทีมของ ซานโช่ สู่ถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ขณะเดียวกัน “เดอะ ซัน” ยังระบุว่า ซานโช่ จะได้รับสัญญาระยะยาว พร้อมค่าเหนื่อย, เงินโบนัส และยังมีค่าฉีกสัญญาจำนวนมหาศาล หลังจากที่มีการเจาจากันอย่างลับๆ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ แมนฯ ยูฯ ยังได้ตกลงเรื่องค่าตัวนักเตะกับ ดอร์ทมุนด์ ได้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นสถิติค่าตัวที่แพงที่สุดบนเกาะอังกฤษ

ทั้งนี้ ดอร์ทมุนด์ ต้องการค่าตัว ซานโช่ ซึ่งอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่อายุ 17 ปีเพื่อไปเล่นกับ “เสือเหลือง” มากกว่า 89 ล้านปอนด์ (ราว 3,382 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ “เร้ด เดวิลส์” เคยจ่ายให้ ยูเวนตุส ต้องดึง ปอล ป็อกบา กลับมาร่วมทีมเมื่อปี 2016

ปืนใหญ่เจอข่าวร้าย

แฟนบอล อาร์เซน่อล เตรียมทำใจ หลังสื่อสเปน เผย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง แสดงความชัดเจนเรื่องอนาคตของตัวเองกับสโมสรแล้ว ท่ามกลางข่าว เรอัล มาดริด สนดึงไปเสริมทัพ
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าทีมชาติกาบอง แสดงความชัดเจนกับ อาร์เซน่อล ต้นสังกัดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้วว่า ต้องการที่จะอำลาถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจบฤดูกาลนี้ ตามรายงานจาก สปอร์ต สื่อกีฬาของสเปน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา

นับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล เมื่อเดือนมกราคม ปี 2018 โอบาเมยอง ทำผลงานได้โดดเด่นอย่างมาก โดยจนถึงตอนนี้ทำไปแล้ว 61 ประตู จากการลงเล่น 97 นัดในทุกรายการ แต่ก็ยังไม่ได้สัมผัสแชมป์กับ “ปืนใหญ่” เลย จนทำให้เจ้าตัวเริ่มมีข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

หัวหอกกาบอง เหลือสัญญากับทีมอีก 12 เดือนเท่านั้น แต่ สปอร์ต รายงานว่า เจ้าตัวได้แสดงความชัดเจนกับสโมสรแล้วว่า ต้องการย้ายทีม โดยมีข่าวว่า เรอัล มาดริด สนดึงไปเสริมทัพ แม้ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสแปนิช ยังหวังที่จะให้นักเตะมานั่งเจรจาเรื่องต่อสัญญาหลังจบซีซั่นนี้ก็ตาม

ก่อนหน้านี้ ปิแอร์ อล็อง มูนเกนกี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลกาบอง เพิ่งออกมาแนะนำให้ โอบาเมยอง ควรที่จะย้ายทีมเพื่อไปตามหาความสำเร็จดีกว่า