แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายด่านเลสเตอร์ ซิตี้ จุดประเด็นเมื่อออกโรงตำหนิการทำหน้าที่ของ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ที่เป่าจุดโทษในครึ่งหลัง ส่งผลให้ต้นสังกัดของตนเสียสมาธิและนำไปสู่การพ่ายแพ้ ลิเวอร์พูล 0-4 เกมลีกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตู เลสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงตำหนิ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินที่เป่าจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล ในครึ่งหลังช่วงระหว่างเกมที่ “หงส์แดง” บุกถล่ม “เดอะ ฟ็อกซ์” 4-0 ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เกมบ็อกซิ่ง เดย์ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา

ประเด็นที่ให้หลายคนต้องพูดถึงเกิดขึ้นในครึ่งหลัง เมื่อทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ได้จุดโทษ หลังจากที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเตะมุมบอลไปชนแขน คักลา โซยุนซู ในเขตโทษ และเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ที่เพิ่งถูกส่งลงมา ขันมาสารับหน้าที่สังหารไม่พลาด จากนั้นทีมเยือนก็เปิดฉากไล่ถลุงอย่างหนัก จบเกมชนะไป 4-0
สำหรับประเด็นนี้ แคสเปอร์ มองว่าการเป่าจุดโทษของ โอลิเวอร์ ทำให้เกมเปลี่ยนไปทันที แถมยังพูดประชดประชันว่าท่านเปาต้องการทำให้ตัวเองเป็นฮีโร่ในแมตช์นี้ และจังหวะดังกล่าวส่งผลต่อผู้เล่น “สุนัขจิ้งจอก” ที่เสียสมาธิจนเล่นไม่ออก

“ผมคิดว่ามันค่อนข้างยากลำบากจริงๆ แต่ที่จริงเรายังมีลุ้นจนกระทั่งผู้ตัดสินทำให้ตัวเองเป็นฮีโร่ในเกมนี้ หลังจากนั้นเราก็เสียสมาธิ พวกเขาเป็นทีมที่เก่งที่สุดในโลกเคียงข้าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ทายาทลูกหนัง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ตำนานโกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุ

ดิ เอ็กซ์เพรส สื่อของอังกฤษ ตีข่าว ดอร์ทมุนด์ บอกกับ เชลซี ว่าจะยอมปล่อย เจดอน ซานโช่ ก็ต่อเมื่อได้ค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ทำเอา “สิงโตน้ำเงินคราม” ระงับแผนล่าตัว ซานโช่ เอาไว้ก่อน
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรชั้นนำแห่งวงการ บุนเดสลีกา เยอรมัน แจ้งกับ เชลซี ทีมดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่าต้องจ่ายเงินถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,800 ล้านบาท) ถ้าหากอยากจะได้ เจดอน ซานโช่ ปีกดาวรุ่งของพวกเขาไปร่วมทัพในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบสอง ช่วงเดือนมกราคมนี้ ตามรายงานของ ดิ เอ็กซ์เพรส สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี
ซานโช่ ตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างหนักตลอดช่วงที่ผ่านมา หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ดอร์ทมุนด์ มาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน โดยซีซั่นที่แล้วเขาทำไป 13 ประตู กับ 19 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 43 นัดในทุกรายการ ส่วนซีซั่นนี้ก็ทำไป 12 ลูกกับ 13 แอสซิสต์จากการลงสนามในทุกรายการ 24 เกม อย่างไรก็ตาม พักหลังมีข่าวลือว่าเขามีปัญหากับผู้บริหารของทีม จนทำให้อนาคตของเจ้าตัวเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ ทีมที่ให้ความสนใจในตัว ซานโช่ มีอย่างเช่น เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นต้น ก่อนที่เมื่อไม่นานมานี้จะมีรายงานว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” เป็นทีมที่มีโอกาสดีที่สุดที่จะได้ ซานโช่ ไปเสริมแกร่ง แต่ล่าสุด ดอร์ทมุนด์ บอกกับอีกฝ่ายว่าจะยอมปล่อยเขาก็ต่อเมื่อได้เงิน 100 ล้านปอนด์เท่านั้น
ดิ เอ็กซ์เพรส เสริมว่าเรื่องดังกล่าวทำให้ตอนนี้ เชลซี ตัดสินใจระงับแผนล่าตัว ซานโช่ เอาไว้ก่อน หลังจากพวกเขาไม่ยินดีที่จะจ่ายเงินมากถึงขนาดนั้น และพวกเขาจะไม่เดินเรื่องจีบแข้งวัย 19 ปีมาร่วมทัพต่อถ้าหาก ดอร์ทมุนด์ ไม่ยอมลดค่าตัวลงมา โดยจะหันไปไล่ล่าเป้าหมายอื่นๆ แทน ซึ่งนอกจาก ซานโช่ แล้วนั้น ทีมของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยังให้ความสนใจในตัว วิลฟรีด ซาฮา ปีก คริสตัล พาเลซ และ ติโม แวร์เนอร์ ดาวเตะ แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วย

เจอร์เก้น คล็อปป์ เตือนนักเตะ ลิเวอร์พูล ต้องระวังแข้งอันดรายของ เลสเตอร์ ซิตี้ เอาไว้ให้ดี ก่อนเกมเจอกันวัน บ็อกซิ่ง เดย์ ที่สนาม คิง เพาเวอร์
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงยกย่อง เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าตัวเก่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ว่าเป็นหนึ่งใน 3 หัวหอกที่ดีสุดในลีกแดนผู้ดี นับตั้งแต่ที่ตัวเองมารับงานคุมทีมในถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อปี 2015
วาร์ดี้ มีสถิติชอบยิงประตูทีมใหญ่ และในฤดูกาลนี้ซัดไปแล้ว 17 ประตู ขึ้นนำเป็นดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ทำให้ คล็อปป์ ต้องเตือนนักเตะ “หงส์แดง” ระวังให้ดีในเกม บ็อกซิ่ง เดย์ ที่ทั้งสองทีมต้องเจอกันที่สนาม คิง เพาเวอร์ วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคมนี้
กุนซือชาวเยอรมัน เผยผ่าน เดลี่ เมล ว่า “เราจะต้องพยายามหยุดเขาให้ได้ เขาเป็นหนึ่งใน 3 กองหน้าในอังกฤษที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ มันยากเสมอในการป้องกันเขา เราจะต้องพยายามตัดการผ่านบอลมาถึงเขา นั่นเป็นสิ่งที่เราจะพยายาม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ทำงานของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้พวกเขาเป็นทีมชั้นนำ และมีคุณภาพสุดๆ”
ในเวลานี้ ลิเวอร์พูล มี 49 คะแนน จาก 17 นัด นำโด่งเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ขณะที่ เลสเตอร์ รั้งอันดับสอง มี 39 คะแนน จาก 18 นัด

อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิลของ ลิเวอร์พูล เผยคำพูดปรัชญาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ที่ใช้กระตุ้นลูกทีมภายในห้องแต่งตัว ซึ่งทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และไม่เคยหวาดหวั่นเมื่อต้องแบกรับแรงกดดันจากการที่ถูกคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนกับทีมชุดพี่ยุคครองจ้าวลูกหนังเมืองผู้ดี และในยุโรป
อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูจอมหนึบ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดเผยถึงปรัชญาที่แสนล้ำลึกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมที่มักจะกระตุ้นบรรดาแข้ง “หงส์แดง” ภายในห้องแต่งตัว จนทำให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อในช่วงที่ผ่านมา
หลายครั้งที่ทีมลิเวอร์พูลในชุดก่อนๆ มักจะโดนนำไปเปรียบเทียบกับทัพ “เดอะ เร้ดส์” ยุคเกรียงไกร แต่สำหรับทีมชุดปัจจุบันซึ่งพวกเขาเพิ่งจะผงาดคว้าแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ หรือสโมสรโลก ครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร ทำให้ทีมคว้าแชมป์รายการสำคัญได้ครบถ้วน
ยิ่งไปกว่านั้นการคว้าแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ยังทำให้ทีมชุดนี้คว้าแชมป์รายการใหญ่ 3 รายการ (แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ) เป็นสโมสรแรกของอังกฤษภายในรอบปีปฏิทินเดียวกัน สำหรับตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือ ลิเวอร์พูล กำลังมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990 หลังจากที่พวกเขาต้องผิดหวังมาหลายครั้ง
แน่นอนว่าในช่วงที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ต้องแบกรับแรงกดดันจากความสำเร็จของทีมในช่วงปลายยุค 70 จนถึงยุค 80 โดย อลีสซง เผยว่าขุนพล “เดอะ เร้ดส์” ชุดนี้ ได้รับปรัชญาที่ยอดเยี่ยมจาก คล็อปป์ จนทำให้พวกเขาไม่หวาดหวั่นที่จะประสบความสำเร็จเหมือนกับทีมรุ่นพี่ในยุคเกรียงไกร
“ผมคิดว่าเราอยู่ร่วมกันเป็นทีม เรากำลังสร้างสิ่งพิเศษมากมาย เจ้านายให้เราอยู่ร่วมกัน และพยายามที่จะสร้างความแตกต่างไม่ใช่แค่ในสนาม แต่นอกสนามร่วมกับแฟนบอล ทุกๆ ครั้งเราจะพูดว่า -เราคือลิเวอร์พูล สิ่งนี้มีความหมายมากๆ- บางทีมันอาจจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลสำหรับใครที่ไม่ใช่แฟนบอลลิเวอร์พูล แต่เราพยายามที่จะทำในสิ่งที่พิเศษสำหรับทุกๆ คน”
“ไม่ใช่แค่สำหรับนักเตะของเรา แต่แฟนบอลซึ่งมีอยู่ทั่วโลกที่ติดตามเรา เราต้องทำให้ดีที่สุดเมื่อลงสนาม พวกเขาได้สร้างประวัติศาสตร์แล้วแต่เรากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ฟุตบอลก็แบบนี้แหละ คุณมีโอกาสที่ดีเสมอ วันพฤหัสบดีเรามีเกมที่สำคัญมากๆ อีกเกมในการพบกับ เลสเตอร์ และนี่คือความสวยงามของฟุตบอล”
“คุณย่อมมีโอกาสใหม่กับสิ่งใหม่ๆ เสมอ เราพยายามสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง เพราะเรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ และนั่นก็คือพรีเมียร์ลีก และพยายามที่จะป้องกันแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ใช่ ครั้งแรกคุณไม่มีทางลืม แต่เมื่อคุณชนะมันย่อมเป็นสิ่งพิเศษเสมอ ชัยชนะสำหรับ ลิเวอร์พูล มีความพิเศษมากๆ เราพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เราคิดเกี่ยวกับเกมต่อไปที่เราต้องเผชิญหน้าเสมอ”
“เรามีอีกหลายเกมที่จะต้องลงเล่น เราเพิ่งจะผ่านมาครึ่งทางของฤดูกาลเท่านั้น ฉะนั้นเรายังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะต้องก้าวไป และเราจำเป็นต้องรักษาฟอร์มการเล่นที่เราเล่นอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ” นายทวารมือ 1 ทีมชาติบราซิล ร่ายยาว

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขอระบายเต็มสูบหลังไม่ปลื้มฟอร์มของแข้ง “ผีแดง” โดยเฉพาะในครึ่งแรกแมตช์แพ้ วัตฟอร์ด 0-2 เกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมปฏิเสธวิจารณ์ความผิดพลาดของ ดาบิด เด เคอา นายด่านจอมหนึบ โดยชี้เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจไม่ปลื้มฟอร์มผลงานของลูกทีมโดยเฉพาะในครึ่งแรกที่เล่นกันเชื่องช้าในแมตช์แพ้ วัตฟอร์ด 0-2 ที่สนามวิคาเรจ โร้ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา
“แตนอาละวาด” ได้สองประตูทองในครึ่งหลังจาก อิสไมล่า ซาร์ กับ ทรอย ดีนี่ย์ (จุดโทษ) แม้ วัตฟอร์ด ยังคงรั้งอันดับสุดท้ายในตารางลีก แต่ 3 คะแนนในแมตช์นี้ทำให้พวกเขายังพอมีความหวังในการสู้ดิ้นรนหนีการตกชั้นต่อไป ขณะที่ “ปีศาจแดง” มี 25 คะแนนเหมือนเดิม ทำให้ตอนนี้รั้งอยู่ในอันดับ 8
โซลชา แสดงความเห็นหลังจบเกมว่า “แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจเลย ครึ่งแรกมันเหมือนกับเกมเทสติโมเนียนของผม เราเล่นกันเงียบมาก, ช้า, ไม่รีบเร่ง แถมพวกเขายังได้กำลังใจอีกเพียบจากความผิดพลาดของเรา เราเริ่มต้นเกมช้ามาก ครึ่งแรกเป็นอะไรที่ย่ำแย่สุดๆ”
“เมื่อคุณเสียสองประตูเหมือนที่เราเสียเร็วติดต่อกันแบบนั้นจากการยิงเข้าเป้า 2 ครั้งของพวกเขา มันยิ่งทำให้เราต้องเจอกับงานที่ยากยิ่งขึ้น เราพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด และต้องเก็บคะแนนให้ได้ทุกคะแนนในเกมลีกแบบนี้” กุนซือเลือดนอร์เวย์ กล่าว
ส่วนจังหวะรับบอลพลาดของ ดาบิด เด เคอา ที่นำไปสู่การเสียประตูแรกนั้น โซลชา ปฏิเสธที่จะวิจารณ์โกลชาวสแปนิช “มันเป็นความผิดพลาด มันเกิดขึ้นได้ในวงการฟุตบอล และนั่นเป็นสิ่งที่เราฝึกซ้อมกันทุกวันเพื่อให้มั่นใจว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง ดาบิด ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในช่วงที่ผ่านมา มันเป็นแค่หนึ่งในหลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้น”
“คุณต้องพยายามเก็บให้ได้ทุกคะแนน และวันนี้เราไม่สมควรได้สิ่งนี้ ผมสามารถพูดอะไรได้มากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ตลอดทั้งวัน เราต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าเรามีอีก 2 เกมที่จะต้องลงเล่น ซึ่งเราต้องพยายามพัฒนาผลงานกันต่อไป” โซลชา ระบุ

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศชัดเจนทัพ “ผีแดง” สนใจอยากได้ลายเซ็นของ เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ เพราะเป็นนักเตะชั้นยอด และตนก็ชื่นชอบฝีเท้าของเขามากๆ แต่สุดท้ายการจะคว้าผู้เล่นคนใดก็ตามมาร่วมทีมต้องช่วยเติมเต็มให้ทีมสมบูรณ์ที่สุด
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันสโมสรสนใจอยากเซ็นสัญญากับ เออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งพุ่งแรงจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก หลังนักเตะทำผลงานได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้
หัวหอกชาวนอร์เวย์ วัย 19 ปี ได้รับการจับตามองจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปหลังจากโชว์ฟอร์มสุดยอดซัดไปแล้ว 24 ประตูจากการเล่น 20 เกมให้ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ตลอดทุกรายการ รวมทั้ง 8 ประตูที่ทำได้ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ด้วย
สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นสโมสรที่มีข่าวกับ ฮาแลนด์ มากที่สุดเนื่องจาก โซลชา ค่อนข้างรู้จักฝีเท้าของนักเตะรายนี้เนื่องจากเคยร่วมงานกันสมัยที่ทำงานอยู่กับ โมลด์ โดย “น้าลูกอม” แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเซ็นสัญญากับนักเตะร่วมชาติรายนี้ว่า “เขาเป็นนักเตะที่ผมชื่นชอบ เรากำลังมองหน้านักเตะชั้นยอดมาตลอด”
“เออร์ลิ่ง มีพัฒนาการที่ดีเยี่ยม ฉะนั้นเขาสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้เมื่อเขาต้องตัดสินใจ ผมไม่อยากพูดอะไรมากนักเกี่ยวกับเขา แต่เราที่อยู่ในฐานะทีมย่อมต้องมองหานักเตะที่สามารถเข้ามาเติมเต็มอองประกอบอื่นๆ ที่เรามีให้สมบูรณ์ และจากนั้นเราคอยมาดูว่าเราจะลงเอยยังไง” โซลชา ระบุ

เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ ระบุ มิโน่ ไรโอล่า นายหน้าของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ หัวหอกอนาคตไกลของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ขอค่านายหน้าสูงถึง 12 ล้านปอนด์ ถ้าหากเขาทำให้ ฮาแลนด์ ไปซบ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ ซึ่งถ้านับรวมค่าตัวที่ “ปีศาจแดง” จะจ่ายให้ตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้นั้น มันก็จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องจ่ายเงินถึง 88 ล้านปอนด์
มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก สโมสรในลีกสูงสุดของประเทศออสเตรีย ขอค่านายหน้าจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเงินจำนวน 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 456 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการที่จะให้แข้งวัย 19 ปีไปอยู่กับ “ปีศาจแดง” ตามรายงานของ เดอะ ซัน สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี
ฮาแลนด์ ตกเป็นที่สนใจของหลายทีมในทวีปยุโรป หลังจากฤดูกาลนี้เขาโชว์ฟอร์มได้สุดยอดด้วยการทำไป 28 ประตู จากการลงเล่น 22 นัด ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มั่นใจว่าพวกเขาจะปิดดีลนี้ได้ โดยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมจะจ่ายเงินค่าตัวให้ ซัลซ์บวร์ก 76 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,888 ล้านบาท) และจะปล่อยเขากลับไปอยู่กับ ซัลซ์บวร์ก ด้วยสัญญายืมตัวจนกระทั่งจบซีซั่นนี้ตามที่ทีมจากออสเตรียต้องการ
าเดิมเสริมว่าถึงแม้ แมนฯ ยูไนเต็ด อยากให้ค่านายหน้ามันลดเหลือน้อยกว่านี้ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าคงจำเป็นต้องยอมจ่ายเงินให้ ไรโอล่า ตามที่เจ้าตัวต้องการ ถ้าหากอยากจะดึง ฮาแลนด์ มาร่วมก๊วนให้ได้ หลังจากทั้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ แอร์เบ ไลป์ซิก กำลังล่าตัวดาวยิงชาวนอร์เวย์เหมือนกัน โดยหากบอร์ดบริหารของยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยอมจ่ายค่านายหน้าสูงตามนั้น มันก็จะทำให้พวกเขาเสียเงินด้านค่าตัวกับค่านายหน้ารวม 88 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,344 ล้านบาท)